ดัชนี PMI ภาคบริการจีน ส.ค. หดตัวหนัก ผลกระทบมาตรการคุมโควิด-19
ดัชนี PMI ภาคบริการจีนเดือน ส.ค. 64ร่วงลงสู่ระดับ 46.7 จากระดับ 54.9 ในเดือน ก.ค.64 ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่จีนเผชิญกับการระบาดรอบแรกในเดือนเม.ย. 2563 นอกจากนี้ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ยังบ่งชี้ว่าภาคบริการของจีนเข้าสู่ภาวะหดตัว
มาร์กิตและไฉซิน เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนหดตัวลงอย่างรุนแรงในเดือนส.ค.2564 เนื่องจากมาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคบริการร่วงลงสู่ระดับ 46.70 ในเดือนส.ค.2564 จากระดับ 54.90 ในเดือนก.ค.2564 โดยดัชนี PMI เดือนส.ค.2564 ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่จีนเผชิญกับการระบาดรอบแรกในเดือนเม.ย. 2563 นอกจากนี้ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ยังบ่งชี้ว่าภาคบริการของจีนเข้าสู่ภาวะหดตัว
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจีนสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าได้เป็นส่วนใหญ่ แต่การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวได้ผลักดันให้หน่วยงานของจีนประกาศใช้มาตรการที่เข้มงวด ซึ่งรวมถึงการระดมตรวจเชื้อให้กับประชาชนหลายล้านคน รวมทั้งออกกฎเข้มงวดด้านการเดินทางในเดือนส.ค.2564 โดยสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างหนักต่อธุรกิจบริการจัดเลี้ยงอาหาร, การขนส่ง, ธุรกิจที่พักอาศัย และธุรกิจบันเทิง
ด้านนายหวัง ฉี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไฉซิน อินไซท์ กรุ๊ปกล่าวว่า “ภาคบริการของจีนยังคงถูกกดดันอย่างหนัก อันเนื่องมาจากต้นทุนแรงงานและการขนส่งที่พุ่งขึ้นในช่วงเวลาที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด”
ขณะที่ทางด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนส.ค.อยู่ที่ 47.5 ซึ่งลดลงอย่างมากจากระดับ 53.3 ในเดือนก.ค. โดยระบุว่า ภาคธุรกิจจีนได้รับแรงกดดันจากการที่รัฐบาลประกาศใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 และราคาวัตถุดิบที่ระดับสูง