สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 9 ก.ย. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 9 ก.ย. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วกว่าที่คาดไว้ หลังสหรัฐรายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 18 เดือน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,879.38 จุด ลดลง 151.69 จุด หรือ -0.43% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,493.28 จุด ลดลง 20.79 จุด หรือ -0.46% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,248.25 จุด ลดลง 38.38 จุด หรือ -0.25%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่า จะลดลงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของตลาด

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 467.57 จุด ลดลง 0.30 จุด หรือ -0.06%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,024.21 จุด ลดลง 71.32 จุด หรือ -1.01% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,684.72 จุด เพิ่มขึ้น 15.83 จุด หรือ +0.24% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,623.15 จุด เพิ่มขึ้น 12.87 จุด หรือ +0.08%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) โดยถูกกดดันจากเงินปอนด์ที่แข็งค่า และจากความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,024.21 จุด ลดลง 71.32 จุด หรือ -1.01%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) หลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลจีนจะปล่อยน้ำมันดิบออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์เพื่อช่วยให้โรงกลั่นภายในประเทศสามารถควบคุมต้านทุนราคา นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลงน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.16 ดอลลาร์ หรือ 1.70% ปิดที่ 68.14 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.60% ปิดที่ 71.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งช่วยหนุนราคาทองคำดีดตัวขึ้นมายืนที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง หลังราคาร่วงหลุดจากระดับดังกล่าวติดต่อกันเป็นเวลา 2 วันก่อนหน้านี้

ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 6.50 ดอลลาร์ หรือ 0.36% ปิดที่ 1,800 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12.10 เซนต์ หรือ 0.50% ปิดที่ 24.177 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.60 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 974.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 94.50 ดอลลาร์ หรือ 4.20% ปิดที่ 2,142.80 ดอลลาร์/ออนซ์

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินป้องกันผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) โดยโครงการ PEPP ของ ECB นั้น เทียบเท่ากับโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.18% แตะที่ 92.4828 เมื่อคืนนี้

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1829 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1824 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3837 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3779 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7371 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7374 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.69 เยน จากระดับ 110.22 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9168 ฟรังก์ จากระดับ 0.9213 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2649 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2673 ดอลลาร์แคนาดา

Back to top button