“ทิสโก้” เชียร์ซื้อ SISB ชูเป้า 11.50 บ. ชี้ดึงกลุ่มนักเรียนโปรแกรม “อีพี” พักดันรายได้โต
“ทิสโก้” ชี้เป้าลงทุน SISB แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 11.50 บ. มีแผนโครงการขยายสาขากลุ่มใหม่จะเน้นรองรับนักเรียนในเขตหัวเมืองและต่างจังหวัด โดยจะเป็นโรงเรียนอินเตอร์ฯ ในเครือข่าย SISB ที่มีระดับค่าเทอมรองลงมาที่ระดับ 1.5-3 แสนบาทต่อปี จาก SISB ปัจจุบันเป็นโรงเรียนกลุ่มอินเตอร์ฯ พรีเมี่ยมมีค่าเทอมเฉลี่ย 4-5 แสนบาทต่อปี บริษัท มีแผนจะเปิดสาขาแรกที่รังสิต-นครนายกในอีก 1-2 ปีข้างหน้าคาดหวังดึงกลุ่มนักเรียนโปรแกรม EP (English Program หลักสูตผสม 2 ภาษา) ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 27%
บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2564 กรณีของบริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระลอก 3 ส่งผลต่อผลประกอบการในปีนี้และปีหน้าจากการลดค่าเทอมและไม่ขึ้นค่าเทอมปีการศึกษาใหม่ และบริษัทเลื่อนเปิดสาขาธนบุรีเฟส 2 ไป 2 เดือน ซึ่งไปเปิดเป็นเดือน ต.ค. 2564โดยรองรับนักเรียนระดับมัธยมได้ 600 คน และสาขาใหม่นนทบุรีเฟส 1 รองรับนักเรียน 1,000 คน ไปเป็นปี 2566 จากงานก่อสร้างที่ล่าช้าและภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังไม่เอื้ออำนวยจากผลกระทบจากโควิด-19
อย่างไรก็ตามบริษัทเตรียมแผนโครงการ Halving Project กลุ่มใหม่จะเน้นรองรับนักเรียนในเขตหัวเมืองและต่างจังหวัดเช่นรังสิต-นครนายกพัทยาชลบุรีอุดรธานีเชียงใหม่เป็นต้น โดยจะเป็นโรงเรียนอินเตอร์ฯ ในเครือข่าย SISB ที่มีระดับค่าเทอมรองลงมาที่ระดับ 1.5-3 แสนบาทต่อปีจาก SISB ปัจจุบันเป็นโรงเรียนกลุ่มอินเตอร์ฯ พรีเมี่ยมมีค่าเทอมเฉลี่ย 4-5 แสนบาทต่อปี บริษัท มีแผนจะเปิดสาขาแรกที่รังสิต-นครนายกในอีก 1-2 ปีข้างหน้าคาดหวังดึงกลุ่มนักเรียนโปรแกรม EP (English Program หลักสูตผสม 2 ภาษา) ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 27% ในขณะที่ SISB ปัจจุบันเป็นโรงเรียนอินเตอร์ฯ พรีเมี่ยม (หลักสูตรนานาชาติ) มีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 1%
สำหรับงบลงทุนโครงการ Halving Project จะต่ำกว่าโรงเรียนอินเตอร์ฯ พรีเมี่ยม 50% หรืออยู่ประมาณ 200 ล้านบาท ต่อ สาขารองรับนักเรียนได้ประมาณ 1,500 คน
ขณะที่ทางฝ่ายนักวิเคราะห์ยังคงประมาณการเดิมจากผลกระทบ โควิด-19 ระลอก 3 และเลื่อนเปิดสาขานนทบุรีคาดแนวโน้มกำไรสุทธิครึ่งหลังของปี 2564 ลดลงจากครึ่งแรกของปี 2564 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 ส่งผลให้มีการเรียนออนไลน์จนครบการศึกษาปีนี้ในเดือน ส.ค. 2564 กระทบต่อรายได้กิจกรรมและค่าอาหารที่หายไปและนโยบายช่วยเหลือผู้ปกครองลดค่าเทอม 1 เทอมในปีการศึกษาใหม่นี้ยังคงประมาณการเดิมคาดกำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 193 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และในปี 2565 อยู่ที่ 246 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ
นอกจากนี้มีการคาดการณ์ว่านักเรียนปีนี้ไม่เพิ่มขึ้น แต่คาดว่าในปีหน้าเพิ่มขึ้น 100 คน เนื่องจากสถานการณ์ โควิด-19 ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจที่ซบเซาปีนี้ และการเรียนออนไลน์ส่งผลให้นักเรียนใหม่โดยเฉพาะระดับเด็กเล็กอนุบาลมีการชะลอการเข้าเรียนใหม่คาดจำนวนนักเรียนปีหน้าจะกลับมาเพิ่มขึ้นได้หลังสถานการณ์ โควิด-19 ผ่อนคลายและนักเรียนสามารถกลับเข้ามาเรียนที่โรงเรียนได้ตามปกติ
ทั้งนี้นักวิเคราะห์คาดผลประกอบการปีนี้ยังเติบโต แม้จะมีผลกระทบจากโควิด-19 หลังจากมีการขยายสาขาในช่วงที่ผ่านมาและยังมีแผนขยายสาขาใหม่นนทบุรีที่มีทำเลพื้นที่ใหญ่ครอบคลุมการเดินทางสะดวกได้ในหลายเขตพื้นที่และยังมี upside จากแผนขยายเครือข่ายใหม่ในอนาคตซึ่งยังไม่รวมในประมาณการของราคาเป้าหมายอยู่ที่ 11.50 บาท อ้างอิงวิธี DCF ราคาหุ้นปัจจุบันมี PER อยู่ที่ 36 เท่า, มีฐานะการเงินแข็งแกร่งมี D/E ปี 2565 ที่ต่ำ 0.6 เท่า แนะนำ “ซื้อ”