“หุ้นเอเชีย” เปิดลบ! หลังดาวโจนส์ร่วงเฉียด 300 จุด แนะจับตาข้อมูลศก.จีนวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนลบ โดยมีแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงเกือบ 300 จุดเมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.2564) เนื่องจากนักลงทุนกังวลถึงความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐจะปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทจดทะเบียน ขณะเดียวกันนักลงทุนยังจับตาการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีนอีกหลายรายการในวันนี้

โดยดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 30,464.17 จุด ลดลง 205.93 จุด หรือ -0.67%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,310.03 จุด ลดลง 192.20 จุด หรือ -0.75% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,651.16 จุด ลดลง 11.44 จุด หรือ -0.31%

ทั้งนี้ตลาดได้รับแรงกดดันจากรายงานข่าวที่ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐสังกัดพรรคเดโมแครตได้เสนอให้มีการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (corporate tax rate) จากระดับ 21% สู่ระดับ 26.5% รวมทั้งเสนอให้ปรับขึ้นภาษีกำไรที่ได้จากการลงทุน (capital gains tax) และเงินปันผลขึ้นสู่ระดับ 28.8% ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณวงเงิน 3.5 ล้านล้านดอลลาร์

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 0.30% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.40% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.50% ในเดือนก.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 5.30% ในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.40% หลังจากพุ่งขึ้น 5.40% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551

อีกทั้งนักลงทุนยังจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21 – 22 ก.ย.นี้ รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของภูมิภาคในวันนี้ ได้แก่ อัตราว่างงานเดือนส.ค.ของเกาหลีใต้, ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนก.ค.ของญี่ปุ่น, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จากเวสต์แพคของออสเตรเลีย รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจจีนในเดือนส.ค. อีกหลายรายการ อาทิ ดัชนีราคาบ้าน, ยอดค้าปลีก และการผลิตภาคอุตสาหกรรม