TKS ลั่นผลงาน Q3 โตแกร่ง บุ๊กกำไรขาย TBSP ชูกลยุทธ์ขยายฐาน-ออกสินค้าใหม่
TKS แย้มแนวโน้มครึ่งปีหลังแกร่ง ไตรมาส 3 บุ๊กกำไรขาย TBSP – ชูกลยุทธ์ขยายฐาน - ออกโปรดักส์ใหม่ พร้อมมองหาโอกาสประมูลงานจากเต็มสูบ
นายจุติพันธุ์ มงคลสุธี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เค.เอส.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS ผู้ประกอบธุรกิจ Security Printing ครบวงจรรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานในไตรมาส 3/64 คาดว่าจะดีขึ้นต่อเนื่อง ผลมาจากบริษัทจะมีการรับรู้รายการพิเศษจากการขายหุ้น บริษัท ทีบีเอสพี จำกัด (มหาชน) หรือ TBSP จำนวน 73.48% ให้กับบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ในราคาหุ้นละ 13.36 บาท คิดเป็นมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท
รวมทั้งมีการเข้าร่วมลงทุนใน SABUY เพิ่มเติม คาดว่ากระบวนการจะแล้วเสร็จในเดือนก.ย. 2564 นี้ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยต่อยอดธุรกิจเดิมของ TKS และผลักดันให้รายได้ขยายตัว ตลอดจนช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานของธุรกิจในอนาคตอีกทางหนึ่ง
พร้อมกันนี้ บริษัทเดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีโซลูชั่นแบบครบวงจร ปัจจุบัน TKS อยู่ระหว่างปรับโครงสร้างบริษัทใหม่ ซึ่งหลังจากจับมือเป็นพันธมิตรกับ SABUY คาดว่าจะเข้ามาช่วยเสริมในส่วนของ Fintech Ecosystem สอดคล้องกับการเดินหน้าสู่โลกดิจิทัลของบริษัท
ทั้งนี้ คาดว่าการทำรายการซื้อขายหุ้นระหว่างกันจะเสร็จในเดือน ก.ย.64 โดยล่าสุดได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของทั้ง 2 บริษัท จะส่งผลให้ TKS ถือหุ้นจำนวน 9.68% ใน SABUY ขณะที่ SABUY จะถือเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน TBSP ในสัดส่วน 73.48% โดย SABUY และ TBSP ได้จัดประชุมผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 27 ส.ค.64 ที่ผ่านมา
“เชื่อว่าทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 64 ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ประกอบกับบริษัทฯ มีการวางแผนขยายฐานลูกค้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ร่วมกับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น รวมถึงมองหาโอกาสเข้าร่วมประมูลงานจากโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ซึ่งบริษัทฯมีความเชี่ยวชาญและถนัด คาดว่าจะส่งผลให้ยอดขายจากการขายและการให้บริการปีนี้จะเติบโตขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ” นายจุติพันธุ์ กล่าว
ขณะเดียวกันบริษัทจะมีการทำตลาดของธุรกิจผลิตฉลากและบรรจุภัณฑ์ (Label & Packaging Solutions) ให้มากขึ้น เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีมาก โดยเฉพาะธุรกิจบรรจุภัณฑ์เป็นเทรนด์ที่มีความต้องการใช้งานสูง พร้อมกันนี้บริษัทยังพิจารณาที่จะทำคลังสินค้า โดยบริษัทมีฐานลูกค้าบ้างแล้วในกลุ่ม B2B และเชื่อว่าจะเป็นโอกาสที่จะสร้างรายได้ให้แก่บริษัทอีกทางในอนาคตด้วย