จับตา 31 หุ้นเด้งรับเข้าดัชนี FTSE วันนี้ KBANK-BBL ผงาดขึ้น “Large Cap”

โบรกฯ แนะ “เก็งกำไร” 31 หุ้นเข้าคำนวณ FTSE กองทุน PASSIVE FUND เข้าซื้อ ณ ราคาปิดวันนี้ หุ้นใหญ่นำโดย KBANK เงินเข้า 5,610 ล้านบาท, BBL เงินลงทุน 2,706 ล้านบาท ด้าน FTSE Small Cap หุ้น STARK, JMART เข้าคำนวณ พร้อม Micro Cap 27 หุ้น ชู XPG, SABUY เด่นสุด


นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วันนี้ (17 ก.ย.) แนะนำเก็งกำไรหุ้นที่เข้าคำนวณ FTSE All World Index รอบนี้ โดยจะมีแรงซื้อจากกองทุน PASSIVE FUND เข้ามาในช่วงท้ายตลาดฯ ขณะเดียวกันให้หลีกเลี่ยงหุ้นที่ถูกคัดออกและลดน้ำหนัก โดย FTSE Rebalance มีผล ณ ราคาปิดวันนี้

“หุ้นที่เข้าคำนวณทุกตัวจะมีแรงซื้อจากกองทุน PASSIVE FUND เข้ามา ณ ราคาปิดวันนี้ หนุนราคาให้ปรับเพิ่มขึ้น จึงเป็นช่องทางเก็งกำไรในวันนี้สำหรับกลุ่มนักลงทุน”นายกรภัทร กล่าว

สำหรับหุ้นที่เข้าคำนวณ FTSE Large Cap ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK คาดเม็ดเงินไหลเข้าลงทุน 170 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5,610 ล้านบาท, ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เม็ดเงินลงทุนเข้า 82 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,706 ล้านบาท ด้าน FTSE Small Cap หุ้นถูกคัดเข้าคือ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK, บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART

ส่วนหุ้นถูกคัดเข้า FTSE Micro Cap จำนวน 27 หุ้น ได้แก่ บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จํากัด (มหาชน) หรือ SAK, บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG, บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM, บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ OISHI, บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD, บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO,

รวมทั้งบริษัท สบาย เทคโนโลยี จํากัด (มหาชน) หรือ SABUY, บริษัท โพสโค-ไทยน๊อคซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ INOX, บริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ 7UP, บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT, บริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MICRO บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS, บริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETC, บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN, บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR, บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AS

พร้อมทั้งบริษัท ส. กิจชัยลงทุนเอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SKN, บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SITHAI, บริษัท อีโนเวรับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ IRC, บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS, บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE, บริษัทเนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR, บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CWT, บริษัท เอ็ม ดี เอ็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MDX บริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CSS, บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVOA และทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล หรือ PROSPECT

นอกจากนี้ FTSE ยังเพิ่มน้ำหนัก บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เม็ดเงินลงทุนเข้า 15 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 495 ล้านบาท, บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH เม็ดเงินลงทุนเข้าประมาณ 13 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 429 ล้านบาท

นายกรภัทร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในทางตรงกันข้ามให้หลีกเลี่ยงหุ้นที่ถูกลดน้ำหนักและถูกคัดออกจากการคำนวณ FTSE All World Index สำหรับหุ้นถูกคัดออกคือ KBANK-F คาดเม็ดเงินลงทุนไหลออก 131 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4,323 ล้านบาท, KBANK-NVDR คาดเม็ดเงินลงทุนไหลออก 40 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,320 ล้านบาท, BBL-F เม็ดเงินลงทุนไหลออก 62 ล้านเหรียญสหรัฐ, BBL-NVDR เม็ดเงินลงทุนไหลออก 21 ล้านเหรียญสหรับ หรือประมาณ 693 ล้านบาท

ส่วนบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC, บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล หรือ DIF ตกชั้นจาก Large Cap ไป Mid Cap ขณะที่ FTSE Small Cap หุ้นถูกคัดออก ได้แก่ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ FIREIT

ด้าน FTSE Micro Cap หุ้นถูกคัดออก ได้แก่ บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด(มหาชน) หรือ RCL, บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF, บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC, บริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF, บริษัทเงินทุน ศรีสวัสดิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ BFIT, ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เอส ไพรม์ โกรท หรือ SPRIME บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BIG, กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาฯ เมเจอร์ ซีนีเพล็ก ไลฟ์สไตล์ หรือ MJLF, บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAND, บริษัท ทักษิณคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ SCP และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เอไอเอ็ม คอมเมอร์เชียล โกรท หรือ AIMCG

พร้อมลดน้ำหนัก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC คาดเม็ดเงินลงทุนไหลออก 7 ถึง 3 ล้านเหรียญสหรัฐต่อบริษัท หรือประมาณ 231 ถึง 99 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้น่าจะผันผวน โดย FTSE ลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยลง 44 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดเม็ดเงินลงทุนไหลออก แนวต้านวันนี้บริเวณ 1,642-1,650 จุด แนวรับบริเวณ 1,620-1,615 จุด

Back to top button