RBF แจ้งแล้ว! TU ทุ่ม 3 พันลบ.ซื้อหุ้น 10% จากผู้ถือหุ้นใหญ่ กรุยทางรุกอาหารสัตว์เต็มสูบ

RBF แจ้งแล้ว! TU ทุ่มเงินกว่า 3 พันลบ. ซื้อหุ้นจำนวน 10% จากผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่ม "รัตนภูมิภิญโญ" หวังกรุยทางรุกอาหารสัตว์เต็มสูบ พร้อมนำวัตถุดิบที่ได้ไปเป็นส่วนผสมเพื่อผลิตอาหารแบบครบวงจร


จากที่ “หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ” ฉบับเช้าวันนี้ (20 ก.ย. 64) รายงานเกี่ยวกับการที่ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เตรียมเข้าซื้อหุ้น บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF ในสัดส่วน 10% จากผู้ถือหุ้นเดิม คือ กลุ่ม รัตนภูมิภิญโญ ที่ปัจจุบันถือหุ้นใหญ่กว่า 71.62% เบื้องต้นมีการเจรจาซื้อขายหุ้นกันที่ราคาประมาณ 16 บาท หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 3,200 ล้านบาท

ทั้งนี้ หากการซื้อขายเป็นไปตามข้อมูลข้างต้น ในระยะสั้นกลุ่ม TU จะมีส่วนต่างจากราคาซื้อขายกับราคาหุ้น RBF ทันทีประมาณ 800 ล้านบาท เมื่อเทียบที่ซื้อขายบนกระดานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เฉลี่ยที่ 20 บาท และบันทึกส่วนแบ่งกำไรและเงินปันผลตามสัดส่วนการถือหุ้น ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ RBF จะได้รับเงินจาก TU ประมาณ 3,200 ล้านบาท และหากคิดจากต้นทุนราคาพาร์ 1 บาท เท่ากับว่ากลุ่มรัตนภูมิภิญโญ จะมีกำไรจากการขายหุ้นครั้งนี้ประมาณ 3,000 ล้านบาท

ล่าสุดเช้าวันนี้ คณะกรรมการของทั้ง 2 บริษัทที่เกี่ยวข้องมีการสรุปลงมติ และรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว

โดย TU แจ้งว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการเข้าทำสัญญาซื้อหุ้นจำนวน 200,000,000 หุ้น ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 10 ของหุ้นทั้งหมดหรือสิทธิออกเสียงในบริษัท RBF โดยการลงทุนในครั้ง นี้จะช่วยสร้างโอกาสและความเติบโตให้กับบริษัทในส่วนธุรกิจส่วนผสมในอาหาร

ขณะที่ RBF แจ้งว่า บริษัทได้รับแจ้งจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ว่าในวันที่ 20 กันยายน 2564 จะมีการขายหุ้น RBF ผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์บนกระดานรายใหญ่ (Big Lot Board) โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ จำนวนรวม 200,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 10.00 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ

โดยมีขนาดรายการประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งรายการดังกล่าวเกิดจากการขายหุ้น โดยนางเพ็ชรา รัตนภูมิภิญโญ และนายสมชาย รัตนภูมิภิญโญ ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์รายงานเช้านี้เกี่ยวกับการทำรายการดังกล่าว ว่า การเข้าซื้อหุ้น RBF ครั้งนี้ของทาง TU ถือเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ เพื่อต้องการผสานผลประโยชน์ธุรกิจอาหารที่ครบวงจรจากต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ระหว่างทั้ง 2 บริษัท เพื่อผลักดันธุรกิจอาหารสู่ตลาดโลกมากยิ่งขึ้น แม้ว่าที่ผ่านมา TU มีการใช้วัตถุแต่งกลิ่น รส และสีผสมอาหารจากกลุ่ม RBF มาแล้วก็ตาม

สำหรับรูปแบบการ Synergy ระหว่าง TU และ RBF นั้น เริ่มจาก RBF ในฐานะผู้ผลิตวัตถุดิบที่เป็นส่วนผสมในอาหาร ป้อนให้กับ TU นำไปเป็นส่วนผสม เพื่อผลิตอาหารแบบครบวงจร ทั้งอาหารสำหรับคน, อาหารสัตว์เศรษฐกิจ และอาหารสัตว์เลี้ยง ที่สำคัญล่าสุด RBF ได้รับใบอนุญาตปลูกกัญชงและใบอนุญาตสกัดน้ำมันจากเมล็ดกัญชง ทั้ง CBD และ THC นั่นทำให้ TU สามารถนำเอาสารสกัดจากน้ำมันกัญชง ไปต่อยอดธุรกิจอาหารและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจอื่น ๆ ในเครือยูเนี่ยนกรุ๊ปมากยิ่งขึ้น

โดย RBF ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร (Food Ingredients) แบ่งเป็น 6 กลุ่ม คือ กลุ่มวัตถุแต่งกลิ่น รสและสีผสมอาหาร, กลุ่มแป้งและซอส, กลุ่มผลิตภัณฑ์อบแห้ง, กลุ่มอาหารแช่แข็ง, กลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติก และกลุ่มสินค้าซื้อมาขายไป

Back to top button