“คันทรี่ กรุ๊ป” มองบวกหุ้นส่งออก หาก “เฟด” ลดวงเงิน QE – ขึ้นดบ.เร็ว ชู HANA – TU เด่น

“คันทรี่ กรุ๊ป” มองว่าหาก “เฟด” ขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าเดิมพร้อมประกาศลดวงเงิน QE จะเป็นบวกกับกลุ่มส่งออก จากเงินบาทอ่อนค่า พร้อมชู ASIAN, HANA, KCE, TU เด่น


บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป ระบุในบทวิเคราะห์ มองจุดสำคัญสัปดาห์นี้ได้แก่การประชุม FED ที่ทราบผลอย่างเป็นทางการเช้าวันที่ 23 ก.ย. สาเหตุที่ค่อนข้างสำคัญเนื่องจากจะมีการเปิดเผยทั้งตัวเลขเศรษฐกิจ แนวโน้มดอกเบี้ยและถ้อยแถลงเกี่ยวกับวงเงิน QE รวมถึงมีผลต่อ SET INDEX ผ่านอัตราแลกเปลี่ยนสกุลบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับประชุม FED ครั้งนี้ มอง Scenario ดังต่อไปนี้ (1) เป็นบวกกับตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงหุ้นไทยคือถ้อยแถลงจาก FED บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อยังห่างไกลเป้าหมาย, ดอกเบี้ยยังมิสามารถขึ้นได้, ยังไม่เร่งลดวงเงิน QE ภายในปีนี้ กรณีข้างต้นผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยคือเงินบาทมีโอกาสกลับมาแข็งค่าและอาจมีจังหวะ Fund Flow ต่างชาติไหลเข้าบ้างแต่จะเป็นลบกับกลุ่มส่งออก (2) เป็นลบกับตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงหุ้นไทย

อย่างไรก็ตาม FED ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าเดิมพร้อมประกาศลดวงเงิน QE ทันทีในการประชุมงวดนี้ หากเป็นกรณีข้างต้นเชื่อดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ากดดันบาทอ่อนค่า Fund Flow มีโอกาสออก แต่จะเป็นบวกกับกลุ่มส่งออก (ASIAN HANA KCE TU) แต่ให้น้ำหนักกระทบหุ้นไทยระยะสั้นเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง (3) เป็นกลางต่อหุ้นทั่วโลกและหุ้นไทย FED ยืนยันยังไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยพร้อมกับจะ Tapering QE อย่างค่อยเป็นค่อยไป

โดยกรณีเช่นนี้คาดไม่มีผลอะไรมากต่อตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงตลาดหุ้นไทยและเชื่อว่าผลการประชุมครั้งนี้จะเป็นดังกรณีที่ 3 เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ อาทิ การจ้างงานนอกภาคเกษตรรวมถึงอัตราการว่างงานของสหรัฐยังไม่กลับไปเท่ากับก่อน COVID-19 ด้านเงินเฟ้อล่าสุดก็ใกล้เคียงตลาดประเมินไว้ ส่วนการคาดการณ์ของตลาดล่าสุดสะท้อนผ่าน Dollar Index, อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ยังคงอยู่ในทิศทางที่มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ถึงกับร้อนแรงมากจนเกินไป

ส่วนปัจจัยอื่นๆ จะเป็นการเสนอ ศบค. ต่อการเปิดประเทศในวันที่ 23 ก.ย. ขณะเดียวกันในวันดังกล่าวจะมีการรายงานมูลค่าส่งออกและนำเข้า Bloomberg คาดเติบโต 17% จากปีก่อน และ 40% จากปีก่อน ตามลำดับ หากออกมาดีกว่าคาดอาจช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนบ้าง ดังนั้นสัปดาห์นี้ปัจจัยสำคัญจะอยู่ปลายสัปดาห์ทำให้ช่วงต้นสัปดาห์ SET INDEX จะเป็นลักษณะแกว่งออกข้างมองกรอบทั้งสัปดาห์ที่ 1610 – 1640

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน สำหรับการลงทุนระยะสั้นแนะนำกลุ่มส่งออก (ASIAN, HANA, KCE, TU) ผลบวกจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ส่วนนักลงทุนระยะกลาง – ยาว ยังแนะสะสม Domestic Play ที่ราคายังไม่กลับไปเท่าก่อน COVID-19 ค้าปลีก (BJC, CRC, CPALL) ศูนย์การค้า (CPN) รถไฟฟ้า (BTS, BEM) ร้านอาหาร (M) ท่องเที่ยว (AOT)

ASIAN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 22 บาท) คาดกำไรไตรมาส 3/64 ยังเติบโตได้ต่อเนื่องจากอุปสงค์อาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารแช่แข็งที่ดีต่อเนื่อง แบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงเริ่มเติบโต และคาดมีกำลังการผลิตเพิ่มอีกในช่วงครึ่งหลังของปี 64 – ไตรมาส 1/65

KCE (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 103 บาท) แนวโน้มอัตรากำไรขยายตัวในไตรมาส 3/64 ตามการรับรู้ผลประโยชน์จากการปรับขึ้นราคาเต็มไตรมาส แนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่า และการประหยัดค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร

Back to top button