ลุ้น Q3 กำไร CKP ทำสถิติสูงสุดใหม่ จับตาทั้งปีโต 4 เท่า!

ลุ้นไตรมาส 3/64 กำไร CKP ทำสถิติสูงสุดใหม่ระกดับ 1 พันลบ. รับไฮซีซั่น หลังปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น-ส่วนแบ่ง “ไซยะบุรี” สูงขึ้น หลังถือหุ้นเพิ่มอีก 5% คาดทั้งปีกำไรโต 4 เท่า!


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” รวบรวมบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้น บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP โดยนักวิเคราะห์หลายสำนักมองว่าผลงานไตรมาส 3/2564 จะเติบโตขึ้นทำสติถิติสูงสุดใหม่ที่ระดับพันล้านบาท หลังปริมาณน้ำไหลผ่านโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำไซยะบุรีมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณการขายไฟฟ้าในเดือน ก.ค.-ส.ค.2564 ดีกว่าไตรมาสก่อน

โดย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ทยอยซื้อ” หุ้น CKP ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท โดยคาดกำไรในไตรมาส 3/64 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ระดับ 1,000 ล้านบาท เติบโต 41% จากไตรมาสก่อนหน้า และเติบโต 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนในไตรมาส 4/2564 โดยปกติจะเป็นช่วงโลซีซั่น น้ำฝนน้อย คาดว่ากำไรจะลดลงมาที่ 300 ล้านบาท ขณะที่คาดว่าปีนี้จะเห็นกำไรที่ 2,160 ล้านบาท เติบโต 449% จากปีก่อน

โดยปัจจัยบวกที่สนับสนุนให้กำไรไตรมาส 3/2564 และปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ เป็นผลมาจากปริมาณน้ำไหลผ่านโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำไซยะบุรีมากขึ้นเป็นพิเศษ จากฝนที่ตกค่อนข้างมาก และจีนปล่อยน้ำออกมามากด้วย ส่งผลให้ปริมาณการขายไฟฟ้าในเดือน ก.ค.-ส.ค.2564 ดีกว่าไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วไตรมาส 3 ของทุกปีจะเป็นช่วงของไฮซีซั่นของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำไซยะบุรี แต่ปีนี้จะเห็นได้ว่าดีกว่าปีก่อน

ขณะที่เดือน ก.ย.นี้ คาดว่าหากมีปริมาณการขายไฟเท่ากับปีก่อน และจะเห็นตัวเลขการขายไฟฟ้าในไตรมาส 3/2564 อยู่ที่ 2,449 ล้านหน่วย ส่งผลให้ CKP ที่ถือหุ้นอยู่ 42.5% จะมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนของไชยะบุรีเข้ามาราว 800 ล้านบาท และเมื่อรวมกับโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 วางเป้าขายไฟฟ้าที่ 510 ล้านหน่วย เติบโตจากปีก่อน ดังนั้น จึงคาดว่าไตรมาส 3/2564 กำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่

อีกทั้งยังมีอีกปัจจัยหนึ่ง คือ โครงการโรงไฟฟ้าหลวงพระบาง ขนาดกำลังการผลิต 1,410 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการรวม 1.5-1.6 แสนล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปลายปีนี้ ซึ่งหากมีความชัดเจนของโครงการดังกล่าวก็จะเป็น Upside โดย CKP  ตั้งเป้ามีกำลังการผลิตราว 5,000 เมกะวัตต์ใน 4-5 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันมีอยู่ 2,100 เมกะวัตต์

ส่วน บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท คาดกำไรไตรมาส 3/2564 จะเติบโตทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อนหน้า หนุนจากไฮซีซั่นในไตรมาส 3/2564 และการถือหุ้น บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (XPCL) เพิ่มขึ้น 5% ขณะที่ปริมาณน้ำของ XPCL ใน ก.ค.ยังคงเพิ่มขึ้นเป็น 4,313 CMS เพิ่ม 43% จากช่วงปีก่อน และ 8% จากเดือนก่อนหน้า

ทั้งนี้สะท้อนปริมาณผลิตไฟฟ้าสูงขึ้น, ปริมาณผลิตไฟฟ้าที่เขื่อนน้ำงึม 2 (NN2) ในไตรมาส 3/64 เบื้องต้นอยู่ที่ 555 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน และ 9% จากไตรมาสก่อนหน้า และบริษัทไม่มีการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าความร้อนร่วมบางปะอิน (BIC) เหมือนในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา รวมถึงยังเตรียมออกหุ้นกู้ ในวงเงิน 4 พันล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2.4% ต่อปี ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการเงินเฉลี่ยลงสู่ 3.10% จาก 3.23% ในปีก่อน

Back to top button