ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง WHART เพิ่มทุนครั้งที่ 6 ลุยลงทุน 3 โครงการ 5.5 พันลบ.
ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง “กองทรัสต์ WHART” เพิ่มทุนครั้งที่ 6 เดินหน้าลงทุน 3 โครงการ มูลค่ารวมไม่เกิน 5.5 พันล้านบาท ชูศักยภาพทำเลจุดยุทธศาสตร์ขนส่งสินค้า
นายอนุวัฒน์ จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท หรือ WHART เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ผู้จัดการกองทรัสต์ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์ สำหรับการเพิ่มทุนครั้งที่ 6 เพื่อลงทุนในทรัพย์สินหลักเพิ่มเติมจำนวนไม่เกิน 5,549.72 ล้านบาท ล่าสุด ทางสำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่ง Filing เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะสามารถเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนได้แล้วเสร็จภายในช่วงปลายปี 2564 นี้
สำหรับทรัพย์สินที่กองทรัสต์ WHART จะเข้าไปลงทุนในครั้งนี้ มีความโดดเด่นด้านทำเลศักยภาพที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่สำคัญของประเทศไทย และตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยเป็นโครงการคลังสินค้าประเภท Built-to-Suit จำนวน 2 โครงการ และ โครงการประเภท General Warehouses จำนวน 1 โครงการ โดยมีพื้นที่เช่าอาคารรวม 3 โครงการประมาณ 184,329 ตารางเมตร ซึ่งประกอบด้วย
- โครงการ WHA Mega Logistics Center (วังน้อย 62) กองทรัสต์ WHART ตั้งอยู่ที่ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่เช่าอาคารรวมประมาณ 24,150 ตารางเมตร และพื้นที่เช่าหลังคารวมประมาณ 23,205 ตารางเมตร มีผู้เช่าปัจจุบันคือ ทีดี ตะวันแดง
- โครงการ WHA Mega Logistics Center (ถนนบางนา-ตราด กม. 23 โปรเจค 3) ตั้งอยู่ที่อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ มีพื้นที่เช่าอาคารรวมประมาณ 30,040 ตารางเมตร มีผู้เช่าปัจจุบันคือ Shopee Xpress
- โครงการ WHA E-Commerce Park ตั้งอยู่ที่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่พื้นที่ EEC และโครงการนี้ได้รับการกำหนดให้เป็นพื้นที่ส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ : กลุ่มพานิชย์อิเล็คทรอนิกส์
บางปะกง ด้วยเช่นกัน โดยมีพื้นที่เช่าอาคารรวมประมาณ 130,139 ตารางเมตร มีผู้เช่าปัจจุบันคือ Alibaba Group
ขณะเดียวกัน WHART เป็นหนึ่งในกองทรัสต์ที่มีการจ่ายประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยอย่างต่อเนื่อง แม้ในปีที่ผ่านมาเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด – 19 ทั่วโลก แต่ WHART เองยังคงมีผลการดำเนินการที่ดี ซึ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงคุณภาพทรัพย์สินที่กองทรัสต์ WHART เข้าลงทุนซึ่งครอบคลุมพื้นที่จุดยุทธศาสตร์หลักของประเทศ และคาดว่าภายหลังการเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมในครั้งนี้ กองทรัสต์จะสามารถจ่ายประโยชน์ตอบแทนได้ไม่ด้อยกว่าเดิม โดยประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทนและเงินลดทุนอ้างอิงงบกำไรขาดทุนและการจ่ายประโยชน์ตอบแทนตามสถานการณ์สมมติตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 อยู่ที่ประมาณ 0.80 บาทต่อหน่วย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า การเพิ่มทุนในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อลงทุนในทรัพย์สินหลักเพิ่มเติมในทรัพย์สินที่มีศักยภาพ มูลค่ารวมไม่เกิน 5,549.72 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินหลักในครั้งนี้ จะส่งผลให้ WHART มีมูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์ แตะที่ระดับกว่าประมาณ 48,000 ล้านบาท และมีพื้นที่เช่าภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 1.58 ล้านตารางเมตร ซึ่งทำให้กองทรัสต์ WHART รักษาความเป็นผู้นำของกองทรัสต์ประเภทศูนย์กระจายสินค้า คลังสินค้าและโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในไทย อีกทั้งการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินหลักในครั้งนี้ ยังช่วยสร้างการเติบโตและมั่นคงให้กับรายได้ของกองทรัสต์ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน ได้ในช่วงไตรมาส 4/2564
“ทรัพย์สินทั้ง 3 โครงการที่กองทรัสต์จะเข้าลงทุนถือเป็นทรัพย์สินที่มีศักยภาพ รวมถึงมีกลุ่มผู้เช่าชั้นนำ อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เติบโต ได้แก่ Alibaba Group Shopee Xpress และทีดีตะวันแดง อีกทั้งยังมีอายุสัญญาเช่าเฉลี่ยที่ยาว โดยมีอายุสัญญาเช่าและบริการเฉลี่ยของทรัพย์สินทั้ง 3 โครงการอยู่ที่ประมาณ 10.7 ปี ทำให้ระยะเวลาคงเหลือของสัญญาเช่าเฉลี่ยของกองทรัสต์ภายหลังการเข้าลงทุนเพิ่มสูงขึ้นจาก 3.0 ปี เป็น 3.5 ปี ซึ่งเป็นการสนับสนุนความมั่นคงของรายได้ให้กับกองทรัสต์ WHART ในระยะยาว”
อย่างไรก็ตามแม้สถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ยังคงไม่คลี่คลาย แต่ด้วยกลยุทธ์ของกองทรัสต์ WHART ที่มุ่งเน้นการเลือกลงทุนสินทรัพย์พรีเมี่ยมในทำเลที่มีศักยภาพ และยึดแนวทางการกระจายความเสี่ยง (Risk Diversification) ผ่านการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทคลังสินค้าศูนย์กระจายสินค้าและโรงงานที่มีผู้เช่ากระจายอยู่ในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวและเติบโตอย่างต่อเนื่อง อาทิ อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) อุตสาหกรรมให้บริการขนส่งโลจิสติกส์ (Logistics) จึงส่งผลให้กองทรัสต์ WHART ยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดี และมีความมั่นคงทางรายได้