“ส.อ.ท.” วาง 6 ยุทธศาสตร์ อุ้มภาคธุรกิจ-อุตสาหกรรม ฝ่าวิกฤติโควิด
“ส.อ.ท.” วาง 6 ยุทธศาสตร์ อุ้มภาคธุรกิจ-อุตสาหกรรม ฝ่าวิกฤติโควิด ชูปรับกลยุทธ์สู่ดิจิทัลมากขึ้น-หนุนเข้าถึงแหล่งเงินในรูปแบบต่างๆ
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ส.อ.ท.ได้ตระหนักถึงปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชน พ่อค้าแม่ค้า นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ รวมไปถึงภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจ
ดังนั้น ส.อ.ท.ในฐานะองค์กรหลักภาคเอกชนที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ มีภารกิจเพื่อช่วยเหลือสมาชิกภายใต้สถานการณ์วิกฤติโควิด-19 เสนอแนวคิดแก่สมาชิกว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยน และปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกับโควิด-19 ซึ่งเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินการในภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจมากขึ้น
ทั้งนี้ ส.อ.ท.ได้จัดตั้งบริการสำคัญภายใต้ 6 ยุทธศาสตร์ ส.อ.ท. (FTI Service Organization) เพื่อช่วยเหลือสมาชิก ส.อ.ท. ดังนี้
1.แนวคิดในการเปลี่ยนกลยุทธ์ให้ตอบโจทย์ตลาด เปลี่ยนรูปแบบสู่ดิจิทัลมากขึ้น โดยในยุคใหม่ต้องคิดให้ต่าง และใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเป็นตัวช่วยทางด้านการตลาด โดยวางกลยุทธ์ 3 แนวทาง คือ Go Online, Go Global และ Go Government สนับสนุนทั้งองค์ความรู้ ช่องทาง เครื่องมือ และเงินทุน โดยโครงการ Made in Thailand เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าสู่การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
2.ด้านการเงิน ส.อ.ท. ยังคงส่งเสริมสมาชิกให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในรูปแบบต่างๆ มากขึ้น โดยในปีนี้จะเน้น 2 แนวทาง คือการผลักดันสินเชื่อรูปแบบ Supply Chain Financing และการระดมทุนในตลาดทุนสำหรับธุรกิจและ SME หรือ SME Board นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการจัดตั้งศูนย์ประนอมหนี้เพื่อสมาชิก ส.อ.ท.ด้วย
3.การส่งเสริมสมาชิกให้สามารถนำนวัตกรรมมาเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการจัดตั้งกองทุนนวัตกรรมแบบ 360 องศา เช่น มีการแนะนำการเชื่อมงานวิจัยไปสู่ภาคอุตสาหกรรม รวมถึงแนะนำการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาแก่สมาชิก เป็นต้น
4.การ Re-Skill และ Up-Skill บุคลากรภาคอุตสาหกรรม เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการสรรหาบุคลากรให้ตรงอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบันมีมากถึง 80 หลักสูตรเฉพาะทาง
5.การยกระดับธุรกิจด้วย Digital Transformation แก่สมาชิก และความสำเร็จจากการที่ ส.อ.ท. สามารถเป็นผู้กำหนดมาตรฐานขั้นสูงของบางผลิตภัณฑ์ได้เอง
6.ส่งเสริมความยั่งยืนของภาคอุตสาหกรรม ครอบคลุมการบริหารจัดการน้ำและสิ่งแวดล้อม และพลังงาน เพื่อลดการใช้ทรัพยากร และสร้างธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งทั้งหมดเป็นบริการเพื่อสมาชิก ส.อ.ท. โดยในสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 นี้ สมาชิกสามารถนำเครื่องมือหรือบริการไปปรับใช้กับธุรกิจเพื่อให้อยู่รอดและเติบโตต่อไปได้
นายสุพันธุ์ กล่าวอีกว่า ส.อ.ท. ยังคงเคียงข้างสังคมไทยด้วยการจัดตั้งกองทุน “ส.อ.ท. ช่วยไทยสู้ภัยโควิด-19” เพื่อช่วยเหลือทั้งภาคสังคม สาธารณสุข และเศรษฐกิจไปพร้อมกัน โดยที่ผ่านมา มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม (ศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 10 จังหวัดสมุทรสาคร) และจัดหาวัคซีนและอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นในการรักษาและป้องกันโควิด-19 รวมทั้งส่งมอบห้องความดันลบและอุปกรณ์ให้กับโรงพยาบาล
นอกจากนี้ ส.อ.ท. ยังเตรียมจัดงานมหกรรมสินค้าแสดงศักยภาพอุตสาหกรรมไทย FTI Expo ในวันที่ 2-6 ก.พ. 65 เพื่อผลักดันสินค้า Made in Thailand รองรับการเปิดประเทศในปีหน้า โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานถึง 1 แสนคน และยอดการเจรจาธุรกิจในงานจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท