STPI ปรับสมดุลองค์กร หลัง STEC ยกเลิกซื้อ STIT กระทบจัดโครงสร้าง-การเงิน

STPI ทำแผนรองรับหลัง STEC ยกเลิกซื้อ STIT กระทบจัดโครงสร้าง-การเงิน จึงปรับองค์กรให้มีประสิทธิภาพและกระชับยิ่งขึ้น เพื่อรองรับกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ หลังจากแนวโน้มสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศดีขึ้นนับจากไตรมาส 3 เป็นต้นมา


บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ STPI เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 4/2564 วันนี้ ได้พิจารณาแผนรองรับและผลกระทบต่อการที่บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC ไม่เข้าซื้อ บริษัท เอส ที ไอ ที จำกัด (STIT) จากบริษัทฯ โดยฝ่ายจัดการได้มีการปรึกษาร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว ที่ประชุมรับทราบและเห็นควรแจ้งให้ทราบรายละเอียดแผนรองรับและผลกระทบโดยสรุป ดังนี้

โดยเหตุผลหลักในการพิจารณาขายกิจการ STIT ให้แก่ STEC เนื่องจากบริษัทได้รับหนังสือแสดงความสนใจลงทุนซื้อกิจการ STI ซึ่งฝ่ายจัดการพิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการจากการลดการดำเนินงานที่ไม่เกื้อหนุนกับธุรกิจหลักของบริษัทฯ จึงเชื่อว่าการขายกิจการของ STIT ออกไปจะเป็นประโยชน์ในระยะยาวต่อกลุ่มบริษัทฯ

ทั้งนี้การยกเลิกรายการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ ได้แก่

(1) ผลกระทบทางด้านกลยุทธ์บริษัทฯไม่สามารถจัดโครงสร้างกลุ่มบริษัทฯ ได้ตามแผนงานที่วางไว้ และยังคงมีความเสี่ยงตามปกติจากการประกอบธุรกิจการเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือเครื่องจักรก่อสร้างและเครื่องจักรต่อไปเช่นเดิม

(2) ผลกระทบทางด้านการเงิน ซึ่งการยกเลิกรายการดังกล่าว ทำให้บริษัทฯเสียโอกาสในการรับรู้กำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุน และไม่ได้รับเงินสดจากการขายกิจการ ซึ่งควรจะได้นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและใช้ในการขยายธุรกิจอื่นตามนโยบายบริษัทฯ อย่างไรก็ดีบริษัทฯมีการทบทวนแผนการใช้เงินและการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ และหาแหล่งเงินทุนอื่นเพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจให้เพียงพอและเหมาะสมต่อไป

อีกทั้งบริษัทฯยังคงมีภาระในการจัดหาเงินทุนและค้ำประกันเงินกู้ยืมให้แก่ STIT ต่อไป อย่างไรก็ดีปัจจุบันทาง STT ได้รับวงเงินสินเชื่อจากธนาคารเพียงพอต่อการบริหารงาน และมีสินทรัพย์ถาวรที่ใช้ค้ำประกันเงินกู้ได้เองบางส่วน รวมถึงมีฐานะทางการเงินที่แข็งแรง

(3) ผลกระทบทางด้านการปฏิบัติงาน คณะกรรมการ และฝ่ายจัดการของ STPI ยังคงต้องติดตามการดำเนินงานของ STIT ต่อไป อย่างไรก็ดี STIT มีฝ่ายจัดการที่ดูแลรับผิดชอบโดยตรง แยกต่างหากจาก STPI อยู่แล้ว จึงยังคงมีการบริหารงานได้อย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นจากผลกระทบด้านต่างๆในการถูกยกเลิกรายการดังกล่าวนั้น บริษัทฯมีแผนการรองรับสำหรับการดำเนินธุรกิจของ STI มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการปรับองค์กรให้มีประสิทธิภาพและกระชับยิ่งขึ้น และ STIT ยังคงมีฐานะทางการเงินที่แข็งแรง เพื่อรองรับกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ หลังจากแนวโน้มสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศที่ดีขึ้นนับจากไตรมาส 3/2564 เป็นต้นมา

 

Back to top button