CPANEL เทรดสนั่น! โบรกชูเป้าสูง 9 บ. การันตีผลงาน “นิวไฮ” ถึงปี 66

CPANEL ลงสนามเทรดวันนี้เป็นวันแรก ลุ้นกระแสตอบรับคึกคัก โบรกเคาะราคาเป้าหมายสูง 9 บาท มองผลงานโตต่อเนื่อง กำไร "นิวไฮ" ถึงปี 2566


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้หลักทรัพย์ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) หรือ CPANEL จะมีการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก ด้วยราคาเสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) หุ้นละ 6 บาท โดยมี บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า วันนี้ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) หรือ CPANEL เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ภายใต้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า CPANEL

ทั้งนี้ CPANEL มีทุนชำระแล้ว 150 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 110.5 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 39.5 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 29.625 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัท 5.925 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานของบริษัท 3.95 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 21-23 กันยายน 2564 ในราคาหุ้นละ 6 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 237 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 900 ล้านบาท

โดยการกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 31.58 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564) ซึ่งเท่ากับ 28.57 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (Fully Diluted) ซึ่งเท่ากับ 150 ล้านหุ้น จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น เท่ากับ 0.19 บาท โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ CPANEL ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) ด้วยระบบอัตโนมัติ (Fully Automated Precast) ที่ใช้สำหรับงานก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 30 ก.ย. นี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากมีความมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่มีโอกาสเติบโตทั้งด้านฐานะการเงิน และผลการดำเนินงาน รวมถึงมีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในวงการอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 20 ปี

โดยหลังจากการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai ครั้งนี้ บริษัทจะนำเม็ดเงินที่ได้มาลงทุนก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ด้วยระบบการผลิต Fully Automated ที่มีกำลังการผลิต 720,000 ตารางเมตรต่อปี หรือเท่ากับกำลังการผลิตเพิ่มอีก 1 เท่าตัว ซึ่งจะมีระยะเวลาก่อสร้างในช่วงไตรมาส 2/65 ถึงไตรมาส 4/66 คาดการณ์เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในไตรมาส 1/67 เพื่อรองรับความต้องการ Precast Concrete ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต รวมถึงชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงินและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ซึ่งการระดมทุนจะช่วยเพิ่มศักยภาพและส่งผลให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจ สร้างความน่าเชื่อถือ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และสร้างการเติบโตได้ตามแผนที่บริษัทได้วางไว้

บริษัทมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยทิศทางธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/64 บริษัทมีแนวโน้มในการรับงานกลุ่มอสังหาริมทรัพย์แนวราบและแนวสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีมูลค่างานในมือ(Backlog) 30 มิ.ย 64 ที่ 1,156.03 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ใน 3 ปี จึงมั่นใจว่าบริษัทจะรักษาอัตราการเติบโตของรายได้และกำไรให้อยู่ในระดับที่ดีได้” นายชาคริต กล่าว

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเสริมว่า เชื่อว่า CPANEL จะเป็นหุ้นไอพีโอที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน ด้วยจุดเด่นที่เป็นหนึ่งในผู้นำการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับสากล ที่สามารถลดต้นทุนแรงงานประมาณ 50%  ลดระยะเวลาและขั้นตอนในการก่อสร้าง (รวมงาน Finishing) ประมาณ 30% ส่งผลให้ต้นทุนรวมของการก่อสร้างลดลง 15%

อีกทั้งมีฐานลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศในการใช้ Precast Concrete ของ CPANEL อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีความสามารถในการทำกำไร และมีศักยภาพการเติบโต

ทั้งนี้จึงมั่นใจว่า CPANEL จะมีโอกาสขยายธุรกิจอีกมากในอนาคต เนื่องจากบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง สะท้อนจากรายได้ 6 เดือนแรกปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 157.28 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 57.5% จาก 6 เดือนแรกปี 2563

ภายหลังการระดมทุน CPANEL จะสามารถสร้างการเติบโตเพิ่มขึ้น จากฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง อีกทั้งบริษัทยังมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักเงินสำรองตามกฎหมาย รวมถึงเงินสำรองอื่นตามที่บริษัทกำหนด และมีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจอย่างประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการเติบโตและโอกาสการขยายธุรกิจในอนาคต” นายสมศักดิ์  กล่าว

ทั้งนี้ ในช่วงก่อนหน้านี้ ทีมงาน “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์”  ได้สำรวจความเห็นนักวิเคราะห์แต่ละบริษัทหลักทรัพย์จำนวน 6 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด มหาชน, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท หลักทรัพย์ ฟิลลิป ประเทศไทย จำกัด มหาชน ซึ่งทั้ง 6 แห่งประสานเสียงแนะซื้อ CPANEL โดยมองว่าราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นแรงเหนือราคา IPO โดยให้ราคาเป้าหมายในช่วง 8.00-9.00 บาท เนื่องจากมองว่าธุรกิจจะสร้างกำไรเติบโตต่อเนื่องในช่วง 3 ปีข้างหน้า(64-66)

โดยบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า CPANEL ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายแผ่นพื้นและผนังคอนกรีตสำเร็จรูป รวมถึงส่วนประกอบอาคารที่ผลิตจากคอนกรีตสำเร็จรูป โดยมองว่าจุดเด่นคือการต่อยอดสินค้าให้เป็น High Value โดยใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของผู้บริหารในแวดวงปูนซีเมนต์และงานคอนกรีต

รวมถึงมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรการผลิตระบบ Fully Automated ที่ทันสมัยของประเทศเยอรมันนีเป็นข้อได้เปรียบคู่แข่ง ปัจจัยการเติบโตมาจากตลาดอสังหาฯแนวราบที่ขยายตัว และเทรนด์อุตสาหกรรมที่นิยมใช้ Precast มากขึ้นจากจุดแข็งเรื่องเวลาและต้นทุน

ดังนั้นคาดผลประกอบการปี 2564 ฟื้นตัวแรง 174% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเร่งขึ้นสูง +98% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนในปี 2565 และดีต่อ +11% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนในปี 2566 ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ขับเคลื่อนด้วย 1) รายได้ฟื้นตัวหลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย และอุปสงค์แนวราบที่แข็งแกร่งรับพฤติกรรม New Normal หนุนความเชื่อมั่น Developer กลับมาเปิดโครงการใหม่มากขึ้น

รวมถึงมีงานที่รอส่งมอบ ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 อยู่ 1.16 พันล้านบาท ซึ่งทยอยรับรู้ในครึ่งหลังปี 2564 ถึงปี 2566 ช่วยจำกัด Downside 2) รับประโยชน์จาก Economy of scale หนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นเร่งขึ้นตามทิศทางรายได้ 3) ต้นทุนทางการเงินสุทธิลดลง หลัง IPO นำไปชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน ประเมินมูลค่าหุ้น CPANEL อิง PER ที่ 19 เท่า ได้ราคาเหมาะสมปี 2564 ที่ 9.00 บาท

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : 6 โบรกชู CPANEL โกรทสต๊อก ตุนแบ็กล็อกแน่น 1.2 พันล. อัพเป้าสูง 9 บ.

Back to top button