UBE ลงเทรดวันแรก! ลุ้นวิ่งแตะเป้า 3.30 บ. ชูธุรกิจเอทานอล – แป้งมันสำปะหลังโตแกร่ง
UBE ขึ้นสังเวียนเทรดวันแรกลุ้นราคาวิ่งชนเป้า 3.30 บาท โบรกมองธุรกิจเอทานอล - แป้งมันสำปะหลังโตแกร่ง หนุนผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วันนี้หลักทรัพย์ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า UBE
โดย UBE มีทุนชำระแล้วหลัง IPO จำนวน 3,914.28 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก จำนวนรวม 1,370 ล้านหุ้น ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1,174.28 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยบริษัท ไทยออยล์ เอทานอล จำกัดและบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) รวมจำนวน 195.71 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์และผู้ลงทุนสถาบัน ระหว่างวันที่ 21 – 23 กันยายน 2564 ในราคาหุ้นละ 2.40 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 2,818 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 9,394 ล้านบาท โดยมีบริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัดเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
ด้าน นายเดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ UBE เปิดเผยว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นับเป็นก้าวสำคัญของบริษัทที่จะช่วยสนับสนุนให้บริษัทดำเนินธุรกิจได้ตามวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้ในการสร้างสรรค์ธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบทางการเกษตรอย่างครบวงจร ส่งเสริมวิถีการเกษตรอินทรีย์ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ UBE มีแผนจะนำเงินจากการระดมทุนไปขยายและพัฒนาประสิทธิภาพกระบวนการผลิตในธุรกิจเอทานอล ขยายกำลังการผลิตแป้งฟลาวมันสำปะหลัง และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเกษตรอินทรีย์ให้มีมูลค่าสูง
โดย UBE มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มครอบครัวโควสุรัตน์ ถือหุ้น 25.77% บริษัท ไทยออยล์ เอทานอล จำกัด ถือหุ้น 12.39% และบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 12.39% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว
พร้อมกันนี้ UBE มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และสำรองตามกฏหมาย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ กระแสเงินสดและแผนการลงทุนของบริษัทตามความเหมาะสม
อนึ่ง UBE เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปมันสำปะหลังแบบครบวงจรรายใหญ่ของประเทศ ประกอบธุรกิจหลัก ได้แก่ 1) ธุรกิจเอทานอล ผลิตและจำหน่ายเอทานอลเกรดเชื้อเพลิงและเกรดอุตสาหกรรมรายใหญ่ของประเทศ ด้วยกำลังการผลิต 400,000 ลิตรต่อวัน 2) ธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง เกรดอาหารและเกรดอุตสาหกรรม ทั้งแบบทั่วไปและออร์แกนิคภายใต้แบรนด์ “อุบลซันฟลาวเวอร์”
รวมถึงมีผลิตภัณฑ์จากแป้งฟลาวมันสำปะหลัง ภายใต้แบรนด์ “Tasuko” ซึ่งบริษัทถือเป็นผู้ผลิตและส่งออกแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิคเพียงไม่กี่รายในโลกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานออร์แกนิคในระดับสากล และ 3) ธุรกิจเกษตรอินทรีย์ ปลูกพืชออร์แกนิค เช่น ข้าว กาแฟ ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายในการเป็นผู้นำด้านเกษตรอินทรีย์ ควบคู่กับธุรกิจพลังงาน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคง
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ คาดรายได้ปี 2564-2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 30.1%, 13.1% และ 8.5% ตามลำดับ การเติบโตหลักๆ มาจากธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง อัตรากำไรขั้นต้นและ EBITDA margin เพิ่มขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนธุรกิจแป้งมัน โดยเฉพาะแป้งมันออร์แกนิค ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเชื่อว่าจะยังคุมได้ดีจึงคาดกำไรสุทธิเติบโต 190.2% ,52.0% และ 20.7% ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่เพิ่ม ขึ้นจาก 2.2% ในปี 2563 เป็น 7.5%ในปี 2566
โดยได้ประเมินมูลค่าหุ้นที่เหมาะสมสำหรับปี 2565 ที่ 3.30 บาท ด้วยวิธี Sum-of-theparts โดยใช้ PE Multiple 26 เท่า สำหรับธุรกิจเอทานอล ให้ premium 30% จากค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังของบริษัทที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกันได้แก่ KSL, KTIS, TAE เนื่องจากความสามารถในการทำกำไรของ UBE ในส่วนของธุรกิจเอทานอลสูงกว่าและอิง PE ที่ 38 เท่าสำหรับธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังของ TWPC ซึ่งมีธุรกิจใกล้เคียง และ NRF ซึ่งเร่งขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ