สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 29 ก.ย. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 29 ก.ย. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นที่ปลอดภัยและสามารถต้านทานวัฎจักรทางเศรษฐกิจได้ดี (defensive stocks) เช่นหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มสินค้าผู้บริโภค อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่อยู่ในระดับสูงยังคงเป็นปัจจัยฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,390.72 จุด เพิ่มขึ้น 90.73 จุด หรือ +0.26% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,359.46 จุด เพิ่มขึ้น 6.83 จุด หรือ + 0.16% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,512.44 จุด ลดลง 34.24 จุด หรือ -0.24%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ร่วงลงอย่างหนัก หลังตลาดทรุดตัวลงถึง 2.2% เมื่อวันอังคาร นอกจากนี้ การคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการในเชิงบวกและข่าวเกี่ยวกับการควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปได้ช่วยหนุนตลาดขึ้นด้วย

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 455.03 จุด เพิ่มขึ้น 2.68 จุด หรือ +0.59%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,560.80 จุด เพิ่มขึ้น 54.30 จุด หรือ +0.83%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,365.27 จุด เพิ่มขึ้น 116.71 จุด หรือ +0.77% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,108.16 จุด เพิ่มขึ้น 80.06 หรือ +1.14%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ หลังขานรับข่าวแอสตร้าเซนเนก้าทำข้อตกลงเทคโอเวอร์บริษัท Caelum Biosciences ของสหรัฐ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,108.16 จุด เพิ่มขึ้น 80.06 หรือ +1.14%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าจะลดลง นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยกดดันตลาด

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 46 เซนต์ หรือ 0.60% ปิดที่ 74.83 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 45 เซนต์ หรือ 0.60% ปิดที่ 78.64 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 4.50 ล้านบาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) โดยสัญญาทองคำร่วงลงติดต่อกันวันที่ 2 และล่าสุดดิ่งหลุดจากระดับ 1,730 ดอลลาร์ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด

ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 14.60 ดอลลาร์ หรือ 0.84% ปิดที่ 1,722.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.ปีนี้

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 98.20 เซนต์ หรือ 4.37% ปิดที่ 21.485 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 14.90 ดอลลาร์ หรือ 1.55% ปิดที่ 947 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง -23.90 ดอลลาร์ หรือ 1.30% ปิดที่ 1,830.30 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.61% แตะที่ 94.3392 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.98 เยน จากระดับ 111.59 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9342 ฟรังก์ จากระดับ 0.9299 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2747 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2680 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1600 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1676 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3435 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3531 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7183 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7239 ดอลลาร์

Back to top button