สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 4 ต.ค. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 4 ต.ค. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,002.92 จุด ลดลง 323.54 จุด หรือ -0.94% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,300.46 จุด ลดลง 56.58 จุด หรือ -1.30% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,255.48 จุด ลดลง 311.21 จุด หรือ -2.14%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยยังคงปรับตัวอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 11 สัปดาห์ โดยถูกกดดันจากสัญญาณเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น, อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้น และปัญหาด้านการเงินของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ของจีน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 450.77 จุด ลดลง 2.13 จุด หรือ -0.47%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,477.66 จุด ลดลง 40.03 จุด หรือ -0.61%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,036.55 จุด ลดลง 119.89 จุด หรือ -0.79% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,011.01 จุด ลดลง 16.06 จุด หรือ -0.23%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มการเงินที่ปรับตัวลง ซึ่งบดบังปัจจัยบวกจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,011.01 จุด ลดลง 16.06 จุด หรือ -0.23%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปีเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) ขานรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันตามคาดในการประชุมเมื่อวานนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.74 ดอลลาร์ หรือ 2.30% ปิดที่ 77.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนวันที่ 11 พ.ย. 2557

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.98 ดอลลาร์ หรือ 2.50% ปิดที่ 81.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 2561

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้

ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.20 ดอลลาร์ หรือ 0.52% ปิดที่ 1,767.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 10.80 เซนต์ หรือ 0.48% ปิดที่ 22.644 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 12 ดอลลาร์ หรือ 1.23% ปิดที่ 961.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 28.70 ดอลลาร์ ลดลง 1.50% ปิดที่ 1,875 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์

ทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.27% แตะที่ 93.7795 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.89 เยน จากระดับ 111.04 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9245 ฟรังก์ จากระดับ 0.9300 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ  1.2581 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2635 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1623 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1597 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3614 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3553 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7289 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7266 ดอลลาร์

Back to top button