“หุ้นเอเชีย” เปิดลบ! หลังดาวโจนส์ปิดร่วงกว่า 300 จุด วิตกบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่ง
“หุ้นเอเชีย” เปิดลบ! ตามทิศทางดาวโจนส์ หลังปิดร่วงกว่า 300 จุด นลท.เทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยหลังจากบอนด์ยีลด์สหรัฐ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.470% เมื่อคืนนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.2564) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
โดยดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,050.39 จุด ร่วงลง 394.5 จุด หรือ -1.39% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,771.65 จุด ลดลง 264.72 จุด หรือ -1.10%
ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้ (5 ต.ค.2564) เนื่องในวันชาติ
ด้านนักลงทุนวิตกกังวลหลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.470% เมื่อคืนนี้ ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย โดยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ถือเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น จะทำให้บริษัทต่างๆ เผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่สภาคองเกรสยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ ขณะที่เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P) เตือนว่า ตลาดการเงินอาจได้รับผลกระทบรุนแรงหากสหรัฐผิดนัดชำระหนี้ และอาจทำให้สหรัฐมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงสู่ระดับ D ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาคที่น่าจับตาในวันนี้ ได้แก่ ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนก.ย.ของเกาหลีใต้, ดุลการค้าเดือนส.ค.ของออสเตรเลีย, ความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.ย.จากเนชั่นแนล ออสเตรเลียแบงก์ (NAB) และผลการประชุมนโยบายการเงินและการแถลงมติอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางออสเตรเลีย