“ฟินันเซียฯ” แนะ “ซื้อ” PJW ปักธง Q4 กำไรนิวไฮ รับแผนเปิดเมือง-ปัญหาชิปคลี่คลาย
“ฟินันเซียฯ” ชี้ไตรมาส 4 กำไรนิวไฮ รับแผนเปิดเมืองและสถานการณ์ขาดแคลนชิปที่คลี่คลาย จึงน่าจะทำให้ยอดขายชิ้นส่วนรถยนต์ บรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นและบรรจุภัณฑ์นมและนมเปรี้ยวปรับตัวดีขึ้น แนะ “ซื้อ” PJW ชูเป้า 7.50 บ.
บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (5 ต.ค. 2564) โดยประเมินแนวโน้มผลประกอบการของ บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW ในไตรมาส 3/2564 จะชะลอจากไตรมาสก่อนชั่วคราวจากสถานการณ์การขาดแคลนชิปส่งผลกระทบให้ลูกค้าในค่ายรถยนต์หลายค่ายต้องหยุดสายการผลิตเป็นระยะเวลาสั้นๆ ขณะเดียวกันเหตุไฟฟ้าดับในประเทศจีนในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อการผลิตของโรงงานในจีนชั่วคราว ปัจจุบันโรงงานกำลังเร่งทยอยเพิ่มกำลังการผลิต
อีกทั้งการ Lockdown เต็มไตรมาสกระทบบรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับนมและนมเปรี้ยวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน ทางฝ่ายวิจัยจึงคาดรายได้ไตรมาส 3/2564 ที่ 706.40 ล้านบาท ลดลง 4.50% จากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น 7.60% จากงวดเดียวกันของปีก่อน คาดอัตรากำไรขั้นต้นชะลอจากไตรมาส 2/2564 เล็กน้อยจากการใช้กำลังการผลิตน้อยลง ทำให้คาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 33.40 ล้านบาท ลดลง 26.20% จากไตรมาสก่อน แต่โตก้าวกระโดด 108.20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากไตรมาส 3/2563 เพิ่งเริ่มฟื้นจากการ Lockdown อย่างเข้มงวดในไตรมาส 2/2563 หากกำไรเป็นไปตามคาด กำไรงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 จะเติบโตก้าวกระโดด 118.70% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับปัจจุบันสถานการณ์ขาดแคลนชิปดีขึ้นเป็นลำดับ ประกอบกับการเปิดเมืองจึงน่าจะทำให้ยอดขายชิ้นส่วนรถยนต์ บรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นและบรรจุภัณฑ์นมและนมเปรี้ยวปรับตัวดีขึ้น ซึ่งแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/2564 น่าจะเป็นจุดสูงสุดของปี 2564 อย่างไรก็ตามจากผลกระทบของการ Lockdown ที่ยาวนานกว่าคาดในไตรมาส 3/2564 ทำให้ทางฝ่ายวิจัยปรับประมาณการรายได้และกำไรปี 2564 ลงเล็กน้อย 1.10% และ 3.90% ตามลำดับ โดยคาดรายได้ที่ 3,098.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.90% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และคาดกำไรสุทธิ 184.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.30% จากงวดเดียวกันของปีก่อน (เดิมคาดกำไร เพิ่มขึ้น 66.80% จากงวดเดียวกันของปีก่อน)
ขณะเดียวกันการรุกตลาด Medical plastic ยังเป็นไปตามแผน โดยคาดว่าจะเริ่มมีรายได้ในช่วงปลายปี 2564 สินค้าแรกคือไซริงค์ อาศัยองค์ความรู้จากการผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงจากชิ้นส่วนยานยนต์ การผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีความสะอาดสูงจากการผลิตบรรจุภัณฑ์นม และอาศัยความเชี่ยวชาญในด้านการตลาดของ IP ซึ่งเป็น Strategic partner ในการเจาะตลาดโรงพยาบาล เชื่อว่าจะประสบความสำเร็จในตลาดไซริงค์ซึ่งมีมูลค่าตลาดราว 3 พันล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ผู้บริหารคาดหวังให้ธุรกิจนี้เป็น New S-curve ชดเชยบรรจุภัณฑ์พลาสติกน้ำมันหล่อลื่นที่มียอดขาย 1.30 – 1.40 พันล้านบาทต่อปี ที่อาจถูกกระทบจากการมาของ EV ในอีก 5 ปีข้างหน้าขึ้นไป
อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิจัยปรับกำไรลงเพียงเล็กน้อย ซึ่งการเติบโตของกำไรในช่วงปี 2564 – 2567 คาดโตเฉลี่ย 24% CAGR ใกล้เคียงคาดการณ์เดิม จึงยังคงราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 7.50 บาท อิงค่า PE 23 เท่า, ค่า PEG 0.90 หาก PJW-W1 ใช้สิทธิครบจำนวน ราคาเป้าหมายจะ Dilute เป็น 5.50 บาท จากราคาหุ้นปัจจุบันที่ 4.12 บาท สะท้อนการใช้สิทธิของวอร์แรนท์แล้ว ยังคงแนะนำซื้อ