“โนมูระฯ”ชี้ SET สัปดาห์นี้ Sideways รอปัจจัยใหม่-แนะสอย 12 หุ้น Outperform ตลาดฯ

“โนมูระฯ” ชี้ SET สัปดาห์นี้ Sideways รอปัจจัยใหม่-แนะสอย 12 หุ้น Outperform ตลาดฯ เน้นโรงไฟฟ้า,โรงพยาบาล,สื่อสารฯ,ส่งออก,โรงกลั่น


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” รวบรวมกลยุทธ์ลงทุนในสัปดาห์หน้า (11-15 ต.ค.64) มานำเสนอพร้อมปัจจัยที่ต้องติดตาม โดยครั้งนี้อ้างอิงข้อมูลจาก บล.โนมูระ พัฒนสิน ซึ่งระบุในบทวิเคราะห์ว่า สัปดาห์นี้ ทิศทางตลาดหุ้นไทยแกว่ง “Sideways” โดยมีแนวต้านบริเวณ 1658/1663 จุด ส่วนแนวรับ 1624/1615 จุด

โดยสัปดาห์นี้แนะจับตารายงาน FED Minutes 13 ต.ค. สำหรับการประชุม FOMC เมื่อวันที่ 21-22 ก.ย. ซึ่ง Dot Plots แสดงให้เห็นว่ากรรมการ FED สนับสนุนให้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2565 เร็วกว่าคาดการณ์เดิมที่เป็นปี 2566 ดังนั้นรายงาน FED Minutes รอบนี้อาจมีสัญญาณ/รายละเอียดเพิ่มเติม

ส่วนการประชุม IMF จะเริ่มขึ้น 15 ต.ค. โดยผู้อำนวยการ IMF ส่งสัญญาณเตรียมทำการปรับลดคาดการณ์ GDP โลกในปีนี้ลงต่ำกว่า 6% (vs Nomura คาดที่ 6%) เนื่องจากยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ผสานความเสี่ยงจากปัญหาหนี้เงินเฟ้อ และความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงวัคซีน โดยมองเศรษฐกิจของประเทศ DM จะกลับสู่ระดับ Pre-Covid ภายในปี 2565 แต่เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ EM จะต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะฟื้นตัว

ส่วนในประเทศสถานการณ์ Third Wave เริ่มน่ากังวล หลังยอดผู้ติดเชื้อรายวันกลับมาทะลุ 1.1 หมื่นราย โดยปัจจุบัน ยอดผู้ติดเชื้อในภาคใต้เริ่มเร่งตัวขึ้น ทำให้กระทรวงสาธารณสุขเผยอาจจะ Lockdown สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส แต่

อย่างไรก็ดีสำหรับจังหวัดในพื้นที่สีแดงเข้มที่ควบคุมการระบาดได้ดีอย่างอ่างทองสิงห์บุรี ศบค.ชุดเล็กเตรียมเสนอมาตรการผ่อนคลาย Lockdown เพิ่มเติมในอีก 2สัปดาห์ แต่คงต้องจับตาสถานการณ์ในช่วงถัดไปอีกครั้ง

โดยปัจจุบันไทยฉีดวัคซีนไปได้ 48% ของประชากร โดยในช่วง 7 วัน ล่าสุด ไทยฉีดวัคซีนราว 6.44 แสนโดส/วัน แบ่งเป็นเข็มแรก 2.3 แสนโดส ครบ 2เข็ม 4.14 แสนโดส เป็นจิตวิทยาบวกต่อการยับยั้งการแพร่ระบาดเนื่องจากมีการเร่งฉีดเข็ม 2 แต่เป้าหมายที่รัฐฯจะฉีดเข็มแรกให้ได้ 70% ภายในสิ้นปียังดูห่างไกล

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนภายนอกไม่มีปัจจัยใหม่ ขณะที่ภายใน สถานการณ์ Third Wave กลับมาน่ากังวล หลังยอดผู้ติดเชื้อเริ่มขยับขึ้น กลยุทธ์แนะนำถือหุ้น 50% คงพอร์ตหลักกลุ่มที่จะ Outperform SET ได้แก่ ได้แก่ โรงไฟฟ้า(GPSC, GULF, BCPG) โรงพยาบาล(BDMS, BH, BCH) กลุ่มสื่อสารฯ(ADVANC) ส่งออก(KCE, HANA. TU) โรงกลั่น (TOP,PTTGC)

ส่วนหุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ TVO, JMT, KBANK ส่วนสัปดาห์ก่อน TIDLOR, TU, GUNKUL ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.16% ดีกว่าดัชนีฯที่ให้ผลตอบแทน 2.13%

โดยบริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TVO แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 33 บาท กำไรไตรมาส 3/2564 เด่น บวกกับราคาน้ำมันปาล์มพุ่งสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี

ส่วนบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT แนะซื้อราคาเป้าหมาย 56 บาท  คาดกำไรครึ่งหลังปี 2564 โตเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และปี 2564 โต 38% และมีโอกาสเข้า SET50

ด้านธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK  แนะนำซื้อเป้าหมาย 175 บาท คาดกำไรไตรมาส 3/2564 โต 20% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน,ลดลง 10% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และ Valuation ถูก

Back to top button