“บขส.” เพิ่มเส้นทางเดินรถ “อีสาน-ตะวันออก” เริ่ม 15 ต.ค.นี้

บขส. เพิ่มเส้นทางเดินรถและเที่ยววิ่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก จากเดิม 10 เส้นทาง เป็น 22 เส้นทาง เริ่มตั้งแต่ 15 ตุลาคม 2564 ทั้งนี้ ค่าโดยสารสามารถชำระผ่านโครงการครึ่งได้ และผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม รับสิทธิ์ส่วนลดค่าโดยสาร 20%


นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลมีนโยบายเดินหน้าเตรียมเปิดประเทศรับการท่องเที่ยว ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ อีกทั้งประชาชนเริ่มมีความมั่นใจและกลับมาเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะเพิ่มขึ้น ภายหลังจากที่รัฐบาลมีมาตรการผ่อนคลายออกมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการ บขส. จึงได้เพิ่มเส้นทางการเดินรถและเที่ยววิ่ง ในเส้นทาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก จากเดิมให้บริการ 10 เส้นทาง เป็น 22 เส้นทาง เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

อาทิ เส้นทางกรุงเทพฯ – บุณฑริก, กรุงเทพฯ – หนองบัวลำภู, กรุงเทพฯ – หนองบัวลำภู – นาวัง, กรุงเทพฯ – นครพนม, กรุงเทพฯ – สกลนคร – นาแก, กรุงเทพฯ – เลย – เชียงคาน, กรุงเทพฯ – สุรินทร์, กรุงเทพฯ – บุรีรัมย์, กรุงเทพฯ – กระนวน – บ้านแพง, กรุงเทพฯ – กุดชุม – ธาตุพนม, กรุงเทพฯ – เดชอุดม – อุบลราชธานี, กรุงเทพฯ – มุกดาหาร, กรุงเทพฯ – รัตนบุรี, กรุงเทพฯ – โขงเจียม, กรุงเทพฯ – นาเชือก – ร้อยเอ็ด, กรุงเทพฯ – จันทบุรี – ตราด และ กรุงเทพฯ – สระบุรี เป็นต้น

ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถจองตั๋วล่วงหน้าเดินทางกับ บขส. ได้ ผ่าน website บขส. https://tcl99web.transport.co.th/Home ร้าน 7-Eleven เคาน์เตอร์เซอวิส ทุกสาขา หรือตัวแทนจำหน่ายตั๋วของ บขส. และสามารถชำระค่าโดยสาร บขส. โดยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตังค์” ได้ โดยสิทธิดังกล่าวไม่สามารถใช้กับการจองตั๋วล่วงหน้าได้ และไม่สามารถยกเลิก/คืน/เปลี่ยนแปลงตั๋วได้ทุกกรณี รวมทั้งผู้โดยสาร ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม สามารถใช้สิทธิ์รับส่วนลดค่าโดยสาร 20% (ไม่รวมค่าธรรมเนียม) จำกัดจำนวนที่นั่งต่อเที่ยววิ่ง ได้จนถึงวันที่ 31 ต.ค.นี้

“บขส. พร้อมให้บริการด้วยรถโดยสารที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA และได้จัดการเดินรถตามประกาศของ ศบค. และกรมการขนส่งทางบก เช่น จัดที่นั่งรองรับผู้โดยสารไม่เกินร้อยละ 75 ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด ห้ามรับประทานอาหารบนรถ ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข D-M-H-T-T-A อย่างเคร่งครัด และต้องสแกนแอปพลิเคชันไทยชนะหรือหมอชนะ ก่อนและหลังใช้บริการ กรณีไม่สามารถใช้แอปพลิเคชันได้ สามารถกรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด” นายสัญลักข์ กล่าว

Back to top button