สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 ต.ค. 2564

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่เป็นผลมาจากการพุ่งขึ้นของต้นทุนพลังงาน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ของธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐ รวมทั้งรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,378.34 จุด ลดลง 117.72 จุด หรือ -0.34% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,350.65 จุด ลดลง 10.54 จุด หรือ -0.24% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,465.93 จุด ลดลง 20.28 จุด หรือ -0.14%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทจดทะเบียน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 457.21 จุด ลดลง 0.32 จุด หรือ -0.07%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,130.23 จุด ลดลง 16.62 จุด หรือ -0.23%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,146.87 จุด ลดลง 52.27 จุด หรือ -0.34% และดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,548.11 จุด ลดลง 22.43 จุด หรือ -0.34%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน, ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,130.23 จุด ลดลง 16.62 จุด หรือ -0.23%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกที่สูงขึ้นหลังจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ดี ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 12 เซนต์ หรือ 0.20% ปิดที่ 80.64 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 23 เซนต์ หรือ 0.30% ปิดที่ 83.42 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้

ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.60 ดอลลาร์ หรือ 0.21% ปิดที่ 1,759.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 15.10 เซนต์ หรือ 0.67% ปิดที่ 22.514 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 4.80 ดอลลาร์ หรือ 0.48% ปิดที่ 1,011.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 71.70 ดอลลาร์ หรือ 3.40% ปิดที่ 2,047.80 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศลดวงเงินในโครงการซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนหน้า นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของราคาพลังงานยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.22% แตะที่ 94.5220 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.66 เยน จากระดับ 113.32 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9308 ฟรังก์ จากระดับ 0.9272 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2462 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2479 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1529 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1560 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3593 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3609 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียทรงตัวที่ระดับ 0.7353 ดอลลาร์สหรัฐ