TIDLOR มั่นใจรายได้ Q3 โต ยัน “สคบ.” คุมดอกเบี้ยเช่าซื้อรถยนต์ไม่กระทบ

TIDLOR มั่นใจรายได้ไตรมาส 3/64 โตแกร่ง บริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ยัน “สคบ.” คุมดอกเบี้ยเช่าซื้อรถยนต์ไม่กระทบ ส่วนไตรมาส 4/64 ธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถมีแนวโน้มเติบโต หลังเปิดประเทศ


นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR เปิดเผยว่า จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เตรียมออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ จักรยานยนต์ รถแทรกเตอร์และเครื่องจักรกลการเกษตร เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา โดยจะควบคุมเพดานอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ระบุในสัญญาได้ไม่เกิน 15% ต่อปี และห้ามเก็บหนี้ส่วนที่เหลือในกรณีที่ผู้เช่าซื้อใช้สิทธิเลิกสัญญาด้วยการส่งมอบรถ (คืนรถจบหนี้) นั้น

สำหรับกรณีดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัททั้งในด้านผลการดำเนินงานและการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากในปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อปล่อยใหม่ในกลุ่มรถยนต์ จักรยานยนต์ รถแทรกเตอร์และเครื่องจักรกลการเกษตรเพียงเล็กน้อย คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 0.5% ของพอร์ตสินเชื่อปล่อยใหม่รายเดือนเท่านั้น

ทั้งนี้ ถึงแม้ภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมายังอยู่ในช่วงชะลอตัว เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และภาคธุรกิจต่างๆ ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ในช่วงที่ผ่านมา แต่ตั้งแต่เดือนก.ย.ที่ผ่านมา พบว่าความต้องการด้านสินเชื่อและการซื้อประกันภัยปรับตัวดีขึ้นเข้าใกล้ระดับปกติหลังจากรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

ส่วนภาพรวมการดำเนินงานของบริษัทฯ ไตรมาส 3/2564 คาดว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ จากรายได้รวมที่ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะต้นทุนทางการเงินที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัทฯ เป็นระดับ A จากเดิมที่ระดับ A- ด้วยแนวโน้มคงที่หรือ Stable

ขณะที่ภาพรวมธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถในช่วงไตรมาส 4/2564 มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่งหลังจากที่รัฐบาลประกาศพิจารณาผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพิ่มขึ้นในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงการเตรียมเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.2564 ซึ่งส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและบริการ ตลอดจนความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในภาคธุรกิจต่างๆ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้น เพื่อเสริมสภาพคล่องเป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือรองรับการลงทุนเพื่อรับโอกาสการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจากฐานลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทฯ เป็นผู้ประกอบอาชีพค้าขายและผู้ประกอบการรายย่อย

Back to top button