“ทองคำ” ปิดร่วง 2% รับแรงกดดัน “บอนด์ยีลด์” สูง – ศก.สหรัฐแกร่ง
“สัญญาทองคำ” ตลาดนิวยอร์กร่วงลง 29.6 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวสูงขึ้นส่งผลกระทบให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสเพิ่มขึ้นในการถือครองทองคำ นักลงทุนจึงเทขายสัญญาทองคำในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยหลังรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนวานนี้ (15 ต.ค.64) โดยถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่เพิ่มขึ้น และนักลงทุนยังเทขายสัญญาทองคำในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยหลังรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 29.6 ดอลลาร์ หรือ 1.65% ปิดที่ 1,768.3 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่เพิ่มขึ้น 0.6% ดอลลาร์ในรอบสัปดาห์นี้
โดยสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 12.8 เซนต์ หรือ 0.55% ปิดที่ 23.349 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 6.6 ดอลลาร์ หรือ 0.63% ปิดที่ 1,058.9 ดอลลาร์/ออนซ์
ขณะเดียวกันสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 74.30 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 2,076.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สำหรับสัญญาทองคำปรับตัวลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.574% เมื่อคืนนี้ ซึ่งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
ด้านนักลงทุนได้เทขายสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนก.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจลดลง 0.2% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.9% ในเดือนส.ค.
ส่วนกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้า เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากลดลง 0.3% ในเดือนส.ค.
นอกจากนี้นักลงทุนยังเทขายสัญญาทองคำหลังจากไม่สามารถยืนอยู่เหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ได้ และนักลงทุนระยะสั้นได้ขายสัญญาทองคำเพื่อเข้าลงทุนในบิตคอยน์ หลังจากที่มีการคาดการณ์ว่าอาจจะมีการออกกองทุน ETF บิตคอยน์ในสัปดาห์หน้า