ทำความรู้จัก HENG ก่อนเทรด 19 ต.ค.นี้ เร่งเครื่องดันพอร์ตสินเชื่อปี 66 ทะลุหมื่นลบ.

ทำความรู้จัก “เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล” หรือ HENG หุ้น IPO น้องใหม่ เตรียมลงสนามเทรดอังคารนี้ (19 ต.ค.64) มั่นใจประสบการณ์แน่น เครือข่ายสาขาเพียบ ผลักดันผลงานเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โชว์ผลงานย้อนหลัง 3 ปี โตเฉลี่ย 44% ต่อปี พร้อมเร่งเครื่องดันพอร์ตสินเชื่อรวมปี 66 แตะระดับ 1.48 หมื่นลบ.


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ HENG ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนน้องใหม่ที่จะทำการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในกลุ่มธุรกิจการเงิน หมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ และมีกำหนดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 19 ต.ค.2564

โดย HENG ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงินซึ่งให้บริการ (1) สินเชื่อเช่าซื้อ (2) สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (3) สินเชื่อที่มีบ้านและที่ดินเป็นหลักประกัน (4) สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มิใช่สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (5) สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ และ (6) นายหน้าประกันวินาศภัยและประกันชีวิต แก่ลูกค้ารายย่อยทั่วไป ภายใต้เครื่องหมายบริการ “เฮงลิสซิ่ง”

ทั้งนี้จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนจำนวนไม่เกิน 800,837,300 หุ้น คิดเป็น 21.0% ของหุ้นทั้งหมดภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นครั้งนี้ และกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 1.95 บาทต่อหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (Par) 1 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ระดับ 29 เท่า

โดยมีบล.กสิกรไทย เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 4 ราย ประกอบด้วย บล.บัวหลวง, บล.แลนด์ แอนด์ เฮาส์, บล.หยวนต้า, และ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)

ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทฯ มีวงเงินกู้ยืมระยะสั้นและระยะยาวกับธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK รวมจำนวน 9,840 ล้านบาท โดยมีเงินกู้ยืมระยะยาวคงค้างรวมจำนวน 1,323.8 ล้านบาท ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.9 ของบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ในครั้งนี้

สำหรับวัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้ไปใช้ 1. ขยายธุรกิจการให้บริการสินเชื่อ ขยายสาขา รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ จำนวน 1,134.8-1,014.8 ล้านบาท ภายในปี 2564-2566

รวมทั้ง 2. ชำระคืนเงินกู้ยืมบางส่วนจากสถาบันการเงิน จำนวน 300 – 400 ล้านบาท ภายในปี 2564-2566 และ 3. พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น Software และ Mobile Application สำหรับการให้บริการสินเชื่อของบริษัทฯ จำนวน 70 – 90 ล้านบาท ภายในปี 2564-2566

ขณะที่สัดส่วนหุ้นของ “ผู้มีส่วนร่วมในการบริหาร” ที่ไม่ติด Silent Period จำนวน 1,714,500,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 45.0 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ ทั้งนี้ รายละเอียดของหุ้นที่ติด Silent Period มีรายละเอียดดังนี้

ขณะที่กำไรสุทธิปี 2561-2563 เติบโตเฉลี่ย (CAGR) 44.6% ต่อปี โดยในปี 2561 กำไรอยู่ที่ 151.8 ล้านบาท ส่วนปี 2562 กำไรสุทธิ 188.7 ล้านบาท และในปี 2563 กำไรสุทธิอยู่ที่ 318.1 ล้านบาท  ส่วนรายได้ปี 2561 อยู่ที่ 1,406.9 ล้านบาท ส่วนปี 2562 อยู่ที่ 1,743.4 ล้านบาท และในปี 2563 มีรายได้อยู่ที่ 1,590 ล้านบาท

อย่างไรก็ดีเมื่อวันที่ 14 ต.ค.2564 นายวิชัย ศุภสาธิตกุล ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการใหญ่ HENG เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ได้เสนอซื้อหุ้นสามัญเดิมของ HENG จากผู้ถือหุ้นกลุ่มทวีเฮงและกลุ่มพัฒนสินผ่านการซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานรายใหญ่ (Big-Lot Board) จำนวน 381,000,000 หุ้น หรือคิด 10% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทในราคาเดียวกับที่เสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ 1.95 บาท/หุ้น ณ วันที่ HENG นำหลักทรัพย์เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เป็นวันแรกในวันที่ 19 ต.ค.2564 ซึ่งทำให้ธนาคารกสิกรไทยเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่

ทั้งนี้การที่ KBANK เข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ HENG สะท้อนถึงความเชื่อมั่นถึงศักยภาพการดำเนินงานของบริษัทฯ และการร่วมมือดังกล่าวจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่บริษัทฯ ในการขยายฐานลูกค้า พัฒนาผลิตภัณฑ์ และแพลตฟอร์มเทคโนโลยีสารสนเทศใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าการร่วมมือดังกล่าวจะเป็นประโยชนต่อผู้ถือหุ้น นักลงทุน และสร้างการเติบโตในระยะยาวต่อไป

นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นกลุ่มทวีเฮงจะจำหน่ายหุ้นสามัญเดิมอีกจำนวน 186,210,000 หุ้น คิดเป็น 4.9% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทให้แก่นักลงทุนรายใหญ่จำนวน 9 ราย เพื่อร่วมลงทุนระยะยาวกับบริษัทฯ ผ่านกระดาน Big-Lot Board ในราคาเดียวกับที่เสนอขาย IPO ที่ 1.95 บาท ณ วันที่ HENG เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกเช่นกัน โดยมีข้อตกลงจะไม่ขายหุ้นเป็นระยะเวลา 1 ปี

ด้านนางสุธารทิพย์ พิสิฐบัณฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร HENG กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายก้าวสู่ผู้นำการให้บริการสินเชื่อที่ครบวงจรในประเทศไทยเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยนำจุดแข็งด้านประสบการณ์ความเชี่ยวชาญทีมผู้บริหารและพนักงานที่มีความเข้าใจในพฤติกรรมความต้องการเงินทุน เพื่อสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ประกอบกับการมีเครือข่ายสาขาผู้ประกอบการเต็นท์รถมือสองและนายหน้ากว่า 5,100 ราย เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่เป็นช่องทางการนำเสนอผลิตภัณฑ์และส่งต่อลูกค้าให้แก่สาขาของ HENG ในแต่ละพื้นที่ และสร้างโอกาสการนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อประเภทอื่นๆให้แก่ลูกค้าได้เพิ่มเติม

นอกจากนี้ HENG ยังมีแผนลงทุนยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันโดยตั้งเป้าภายในปี 2566 จะเพิ่มสาขาเป็น 830 สาขา เน้นขยายในพื้นที่เขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง รองรับแผนขยายพอร์ตผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มีทะเบียนรถเป็นประกันและนาโนไฟแนนซ์ เพื่อผลักดันพอร์ตสินเชื่อรวมเพิ่มเป็น 1.48 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันที่มีพอร์ตรวม 8.42 พันล้านบาท

Back to top button