สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 ต.ค. 2564

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3 อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวกเนื่องจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และเน็ตฟลิกซ์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,258.61 จุด ลดลง 36.15 จุด หรือ -0.10%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,486.46 จุด เพิ่มขึ้น 15.09 จุด หรือ +0.34% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,021.81 จุด เพิ่มขึ้น 124.47 จุด หรือ +0.84%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราร่วงลง หลังจีนเปิดเผยข้อมูลการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาด และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้นักลงทุนวิตกว่า เงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นจนไม่สามารถควบคุมได้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 467.04 จุด ลดลง 2.35 จุด หรือ -0.50%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,673.10 จุด ลดลง 54.42 จุด หรือ -0.81%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,474.47 จุด ลดลง 112.89 จุด หรือ -0.72% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,203.83 จุด ลดลง 30.20 จุด หรือ -0.42%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) โดยปรับตัวลงมากที่สุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น โดยหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์และกลุ่มที่เกี่ยวกับการเดินทางนำตลาดปรับตัวลง

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,203.83 จุด ลดลง 30.20 จุด หรือ -0.42%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) ขานรับแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.20% ปิดที่ 82.44 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 53 เซนต์ หรือ 0.60% ปิดที่ 84.33 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) โดยบรรยากาศการซื้อขายในตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ

ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.60 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ระดับ 1,765.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.50 เซนต์ หรือ 0.36% ปิดที่ 23.264 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 21 ดอลลาร์ หรือ 1.98% ปิดที่ 1,037.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 63.50 ดอลลาร์ หรือ 3.10% ปิดที่ 2,013.10 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐที่ดีดตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดขายบ้านมือสอง

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.02% แตะที่ 93.9549 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9232 ฟรังก์ จากระดับ 0.9227 ฟรังก์ แต่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2376 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2383 ดอลลาร์แคนาดา และเมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์ทรงตัวที่ระดับ 114.26 เยน

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1610 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1605 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3730 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3748 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7417 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7420  ดอลลาร์