ลุ้น EA-NEX-CHO เด้งรับแผน “คมนาคม” ลงทุนปี 65 จับตาเปิดประมูลบัสอีวี 2 พันลบ.

ลุ้น EA-NEX-CHO เด้งรับแผนปี 65 คมนาคม เร่งสานต่อนโยบายลงทุนยานยนต์ไฟฟ้าทั้งรถโดยสารสาธารณะไฟฟ้า เรือไฟฟ้า และรถไฟไฟฟ้า พร้อมจับตา “บขส.” จ่อเปิดประมูลเช่า “บัสอีวี” จำนวน 300 คัน วงเงิน 2 พันลบ.


สืบเนื่องจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงแผนการลงทุนในปี 2565 ว่าจะเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และบริการด้านคมนาคมในเชิงรุก โดยมุ่งเน้นการบูรณาการการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมระหว่างรูปแบบการขนส่ง และการกำกับดูแลการพัฒนาระบบคมนาคมให้มีความสะดวก ปลอดภัย ตรงเวลา และราคาสมเหตุสมผล ทั้งนี้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน และเป็นการสนับสนุนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยจะสานต่อนโยบายเดิมจากปี 64 และขับเคลื่อนนโยบายเพิ่มเติมปี 2565 รวมทั้งสิ้น 76 นโยบาย โดยมีงบประมาณโครงการปี 2558-2565 รวมอยู่ที่ 1.44 ล้านล้านบาท

โดยแผนดำเนินงานส่วนหนึ่ง คือ จะผลักดันเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสำหรับรถขนส่งสาธารณะ (EV) ซึ่งในปี 2564 ได้เปิดบริการ EV Bus เส้นทางนำร่องแล้วที่จังหวัดสมุทรปราการ และจะขยายเพิ่มเติมในปี 2565 รวมถึงขนส่งทางบกจะเพิ่มมาตรการลดภาษียานยนต์ไฟฟ้าในปี 2565 ด้วย

รวมทั้งผลักดันการพัฒนารถไฟ EV ปี 2564 ลงนาม บันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมพัฒนารถไฟ EV ต้นแบบ และในปี 2565-2566 ดัดแปลงรถไฟ EV ต้นแบบเป็นขบวนแรกของประเทศไทย

อีกทั้งการผลักดันเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสำหรับเรือโดยสารสาธารณะ โดยในปี 2564 มีเรือให้บริการ 24 ลำ และปี 2565 จะเพิ่มอีก 28 ลำ และสร้างมาตรฐานเรือ EV ให้เกิดขึ้นด้วยการขับเคลื่อนนโยบายปี 2565 การพัฒนาระบบคมนาคมที่ยั่งยืน 13 นโยบาย

ทั้งนี้จากการที่รัฐบาลผลักดันโครงการยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะส่งผลดีกับผู้ประกอบการธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า อย่าง บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA, บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX และบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO

ด้าน นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้น EA ปรับขึ้นมาน่าจะเป็นแรงเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 3/64 ซึ่งเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปี ตามฤดูกาลช่วงไฮซีซั่นที่มีมรสุมหนุนโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมจะส่งผลให้รายได้และกำไรดี นอกจากนั้นในไตรมาสนี้จะเริ่มรับรู้รายได้รถบัสไฟฟ้า (EV) ร่วมทุนกับ NEX

ทั้งนี้ช่วงที่ผ่านมาราคา EA ปรับตัวลดลงไปมากแล้ว ทั้งนี้ ให้ราคาเหมาะสมหุ้น EA ที่ 68 บาท แต่หากรวมกับธุรกิจแบตเตอรี่ และ ธุรกิจรถบัส EV ก็จะมีราคาเหมาะสมมากกว่า 68 บาท แนะนำเล่นเก็งกำไรได้

ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า บขส.เตรียมปรับแผนการจัดหารถโดยสารใหม่ทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการจัดหารถโดยสารพลังงานไฟฟ้า หรือ รถอีวี เบื้องต้น มีความต้องการจัดหารถโดยสารจำนวน 300 คัน แบ่งออกเป็นรถมินิบัสใช้วิ่งให้บริการระยะทางใกล้รัศมีไม่เกิน 300 กิโลเมตร และรถโดยสารปรับอากาศ ความยาว12 เมตร ใช้วิ่งให้บริการระยะทางยาวมากกว่า 300 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้งบประมาณราว 2,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ได้มอบหมายให้สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ทำการศึกษารายละเอียด โดยการจัดหาเป็นรถอีวีทั้งหมด 300 คัน จะเป็นรูปแบบการเช่า จากเดิมที่มีแผนทั้งซื้อและเช่ารถเชื้อเพลิงดีเซลรวม 413 คัน คาดว่าจะนำเสนอผลการศึกษาเพื่อเสนอคณะกรรมการ บขส.พิจารณาอนุมัติในเดือนธ.ค.64 จากนั้นจะใช้เวลาจัดทำทีโออาร์จัดซื้อจัดจ้างราว 3 เดือน คาดว่า เม.ย. 2565 เริ่มเปิดประมูลได้ ตั้งเป้ารับมอบล็อตแรก 100 คัน เพื่อนำมาทดแทนรถเก่าที่หมดสภาพ และนำออกมาให้บริการประชาชนได้ภายในปลายปี 2565

โดย นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที เปิดเผยเมื่อวันที่ 6 ต.ค.2564 ว่า NEX เจรจากับลูกค้าอยู่หลายรายที่ต้องการเปลี่ยนมาใช้รถบัสไฟฟ้า ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เบื้องต้น บขส.ต้องการจัดหารถโดยสาร 300 คัน แบ่งเป็นรถมินิบัสใช้วิ่งให้บริการระยะทางใกล้รัศมีไม่เกิน 300 กิโลเมตร และรถโดยสารปรับอากาศ ความยาว 12 เมตรใช้วิ่งให้บริการระยะทางยาวมากกว่า 300 กิโลเมตร รวมถึงยังมีงานองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ด้วย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายนภาครัฐที่มุ่งเปลี่ยนไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น

นอกจากเหนือจากลูกค้าภาครัฐแล้ว NEX ยังมีโอกาสได้ลูกค้าภาคเอกชนเพิ่มเติม เช่น โรงงานอุตสาหกรรม คาดว่าจะเห็นการส่งมอบรถบัสไฟฟ้าให้กับหน่วยงานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทคาดว่าปีนี้จะส่งมอบรถบัสไฟฟ้าอย่างแน่นอนจำนวน 500 คัน แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายที่ 9.50 บาท/หุ้น

อีกทั้งก่อนหน้านี้ นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHO เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการทำแผนธุรกิจใหม่ เพื่อปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจไปให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกสมัยใหม่ที่การเข้ามาของเทคโนโลยีมีบทบาทมากขึ้น โดยที่จะเป็นการต่อยอดจากธุรกิจเดิมในการพัฒนารถยนต์ที่จะหันมามุ่งเน้นระบบรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่จะมีการใช้เพิ่มมากขึ้นในอนาคต หลังจากปัจจุบันบริษัทมีการพัฒนารถบัสไฟฟ้า (EV Bus) และรถแท็กซี่ไฟฟ้า (EV Taxi) ซึ่งได้นำร่องจากการพัฒนา London Taxi จำนวน 1,000 คันมาให้บริการในกรุงเทพฯ และจะเพิ่มอีก 2,500 คันภายใน 2 ปี เพื่อให้บริการมาในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดอื่นๆ ต่อไป

Back to top button