ปชช. แพนิค! แห่ถอนเงินหวั่นบัญชีกระทบ จี้ธปท.-แบงก์ เร่งหาทางออก
ประชาชนเกิดอาการตื่นตระหนก หลังจากที่บัญชีหลายธนาคารถูกหักเงินผิดปกติ ทั้งบัญชีบัตรเครดิตและเดบิต ในช่วงระหว่างวันที่ 1-17 ตุลาคมที่ผ่านมา จึงได้แห่ถอนเงินออกจากธนาคารเพื่อแสดงจุดยืน หวังธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารพาณิชย์เร่งแก้ไขปัญหา
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (20 ต.ค.2564) เนื่องจากกรณีที่มีเจ้าของบัญชีธนาคารถูกหักเงินในบัญชีโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งพบว่าการทำรายการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตโดยที่ไม่ได้ทำธุรกรรมด้วยตนเอง ต่อมาธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย ชี้แจงว่าเป็นรายการที่เกิดจากการทำธุรกรรมชำระค่าสินค้าและบริการกับร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่
ทั้งนี้ธนาคารเจ้าของบัตรได้ดำเนินการระงับการใช้บัตรของลูกค้าที่มีรายการผิดปกติ และติดต่อลูกค้า รวมทั้งอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบร้านค้าที่มีธุรกรรมที่ผิดปกติเหล่านี้ ต่อมาธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย ติดตามการตัดเงินผิดปกติจากบัญชีบัตรเครดิตและบัตรเดบิต พบว่าช่วงระหว่างวันที่ 1 – 17 ตุลาคม ตรวจสอบพบการตัดเงินที่ผิดปกติจากการใช้จ่ายผ่านบัตรกว่า 1.07 หมื่นใบ มูลค่ากว่า 130 ล้านบาท
ล่าสุดเฟซบุ๊ก “แชร์ประสบการณ์โดนหักเงินจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว” ที่ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 8.70 หมื่นคน เริ่มมีบางคนโพสต์ข้อความแสดงจุดยืนถอนเงินออกจากธนาคารเพื่อรอการแก้ไขที่ชัดเจน เพราะเกรงว่าธนาคารต่างๆ จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ และสูญเงินจำนวนดังกล่าวออกไป บางคนเหลือติดบัญชีไว้เพียงเล็กน้อย ถ้าหากเหตุการณ์ปกติจะกลับไปฝากใหม่
นอกจากนี้ยังมีคนตั้งคำถามไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งว่าจะนิ่งเฉยไม่ทำอะไรเลยหรือ จะมั่นใจระบบธนาคารของไทยได้อย่างไร ทั้งที่เรื่องการเงินถือเป็นความมั่นคงของประเทศ เป็นต้น
ทั้งนี้ยังมีแนวทางสำหรับคนที่ไม่สะดวกถอนเงินสดจากธนาคาร สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำจากสมาชิกในกลุ่ม “แชร์ประสบการณ์โดนหักเงินจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว” เพื่อรักษาความปลอดภัยของบัญชีได้ ดังนี้
1.เข้าไปในแอปฯ ธนาคาร แล้วตั้งวงเงินโอนให้อยู่ที่ 0 บาท หรือหากจำเป็นต้องใช้เงินโอนรายวัน อาจตั้งวงเงินเพียงเล็กน้อยพอ เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพโอนเงินออกได้ทีละมาก ๆ
2.ให้ยกเลิกการผูกบัตรเครดิต – บัตรเดบิตทั้งหมด โดยเฉพาะกับแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันขายของออนไลน์
3.หากต้องการถอนเงินสด ให้ถอนเงินโดยการใช้แอปฯ แทนการใช้บัตรเดบิตแทน
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้หารือกับธนาคารแล้ว และยืนยันว่า สำหรับผู้เสียหายในคดีดังกล่าว ไม่ต้องแจ้งความกับตำรวจแล้ว แต่ทางธนาคารจะคืนเงินให้ภายใน 5 วัน โดยตอนนี้มีบัตรเครดิตที่โดนล้วงข้อมูล 5,700 ใบ, บัตรเดบิต 4,800 ใบ รวมมูลค่าความเสียหาย 100 ล้านบาท