FSSIA มองบวก AAV เพิ่มทุน เติมสภาพคล่องรับท่องเที่ยวฟื้น เคาะเป้า 3.20 บ.

FSSIA มองบวก AAV เพิ่มทุน เติมสภาพคล่องเสริมฐานทุนแกร่ง รอรับประโยชน์ท่องเที่ยวฟื้น คาดหนุนผลงานเติบโต ประเมินราคาพื้นฐาน 3.20 บ.


นายสุวัตร สินสาฎก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ออกอากาศวันที่ 20 ตุลาคม 2564 ผ่านช่องทางเฟซบุ๊กแฟนเพจข่าวหุ้นธุรกิจ และทางยูทูป Khohoon TV Online ถึงกรณีหุ้นบริษัท เอเชีย เอวิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV อนุมัติการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 8,000,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท

โดยบริษัทฯ จะนำเงินที่จะได้รับจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) การจำหน่ายหุ้นกู้แปลงสภาพให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) จำนวนรวมประมาณ 11,000 ล้านบาท และการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นที่แต่ละรายถืออยู่ (RO) ประมาณ 3,000 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 14,000 ล้านบาท

โดยนายสุวัตรมองว่าการประกาศเพิ่มทุนของ AAV นับว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะหลังจากเปิดเมืองแล้ว สายการบินภายในประเทศและต่างประเทศจะเหลือคู่แข่งน้อยราย ซึ่งจะเหลือเพียงสายการบินบางกอกแอร์เวย์ แอร์เอเชีย และเวียดเจ็ท (Viet Jet) เป็นหลัก ส่วนสายการบินอื่นๆ ยังคงประสบปัญหาโครงสร้างด้านการเงินที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ดังนั้น เมื่อปัญหาทางด้านการเงินของ AAV ได้ถูกแก้ไขแล้ว สำหรับการเพิ่มทุนที่ราคา 1.75 บาท จะได้จำนวนเงินทุนเข้ามาใหม่

ส่วนผู้ถือหุ้นรายเดิมมองว่ายังคงได้ประโยชน์จากการเพิ่มทุนในอัตราส่วน 5.7625 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคา 1.75 บาท หากซื้อหุ้นและเพิ่มทุนเข้าไปด้วยคาดจะได้รับผลตอบแทนอยู่ที่ 0.20-0.30 บาท/หุ้น เช่นเดียวกับกรณีของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ที่มีการเพิ่มทุน RO แจกวอร์แรนต์ (Warrant) โดยมองว่าสิ่งที่ AAV กำลังทำมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันกับบ้านปู ถึงแม้ว่าจะมีการเพิ่มทุนแต่ก็เป็นการแก้ปัญหาได้อย่างเบ็ดเสร็จ และทำให้ AAV กลับมาเป็นผู้เล่นที่มีความแข็งแกร่ง และได้มาร์เก็ตแชร์เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งการเปิดเมืองแน่นอนว่าสัดส่วนการบินภายในประเทศของ AAV มีเกินครึ่ง ส่วนการบินต่างประเทศ จะใช้ระยะเวลาสั้นๆ ในการฟื้นตัวกลับมา

อย่างไรก็ตาม AAV จะกลับมาฟื้นได้อย่างแน่นอนหลังจากมีการเปิดเมืองและการท่องเที่ยว จึงมองว่านี่เป็นจุดสำคัญที่จะให้ AAV กลับมาเป็นผู้นำทางธุรกิจทางด้านสายการบินที่มีความแข็งแกร่ง โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 นับตั้งแต่เดือนตุลาคมตลอดจนเดือนธันวาคม จะเห็นการบินกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะบริษัทที่ได้มีการปรับโครงสร้างของบริษัทแล้ว จึงยังมีความน่าสนใจ

นอกจากนี้ การเพิ่มทุน dilute ไปสักประมาณ 20-30% แต่ว่าจะมีกำไรเพิ่มเข้ามาและดอกเบี้ยจะลดลงด้วย จึงได้ประเมินราคาราคาเป้าหมายจะกลับไปเกิน 3 บาทอย่างแน่นอน โดยราคาพื้นฐานที่ทาง FSSIA ให้อยู่ที่ประมาณ 3.20 บาท

ทั้งนี้มองว่าการ Dilute จะทำให้ Balance Sheet แข็งแรงขึ้น และหนี้จะลดลงไปเกือบ 4,000 ล้านบาท ดอกเบี้ยก็จะหายไป โดยหลังจากที่มีการเพิ่มทุน รวมเงินเบ็ดเสร็จแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท จากเดิมที่มีอยู่เพียง 2,000-3,000 ล้านบาท ทั้งนี้ทาง AAV ยังได้พื้นที่มาร์เก็ตแชร์ในสนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มอีกด้วย เพราะฉะนั้นการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะทำให้ AAV กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง จึงมองว่าเป็นโอกาสสำคัญของทาง AAV

Back to top button