CKP ปลื้ม หุ้นกู้ 2 พันลบ. “สถาบัน-รายใหญ่” จองซื้อเกิน 2 เท่าวงเงินเสนอขาย

CKP เผย “สถาบัน-รายใหญ่” จองหุ้นกู้เกินกว่า 2 เท่าของวงเงินเสนอขาย 2 พันลบ. ซึ่งเป็นหุ้นกู้อายุ 10 ปี มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.58% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นของนลท.ที่มีต่อกิจการ


นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP เปิดเผยว่า บริษัทได้เสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2564 มูลค่า 2,000 ล้านบาทให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยได้รับความสนใจจากนักลงทุนจองซื้อเข้ามาเกินกว่า 2 เท่าของจำนวนที่เสนอขาย แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อกิจการและความสามารถในการบริหารงานของบริษัทในฐานะที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานสะอาดทั้งในและต่างประเทศ ควบคู่กับการให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม และสังคม

โดยหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เป็นหุ้นกู้อายุ 10 ปี และมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.58% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนด

ทั้งนี้หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ “A-” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 15 ก.ย.64

สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินบางส่วนมาชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน และมีแผนนำเงินส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการต่อไป

อย่างไรก็ดีความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความสามารถในการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 CKP มีรายได้รวม 4,396.20 ล้านบาท เติบโตขึ้น 803.10 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 22.40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 821.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 289.10% จากช่วงเดียวกันของปี 2563

นอกจากนี้ บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (XPCL) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี ใน สปป.ลาว อยู่ระหว่างการดำเนินการประเมินอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) เพื่อเตรียมพร้อมในการออกหุ้นกู้ ซึ่งวางแผนไว้ในปี 2565 โดยหากได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน คาดว่า XPCL จะสามารถลดต้นทุนทางการเงินซึ่งเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายหลักของ XPCL ได้

“CKPower ยังมองหาโอกาสการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 กิจกรรมหลักของบริษัทฯจะยังคงเป็นการดำเนินการพัฒนาและศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการไฟฟ้าพลังน้ำต่างๆ รวมถึงศึกษาโอกาสทางด้านการลงทุนในโครงการไฟฟ้าที่เป็นพลังงานหมุนเวียน และพลังงานสะอาดทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นหลัก เพื่อให้ธุรกิจการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต” นายธนวัฒน์ กล่าว

 

 

Back to top button