“กลุ่มแบงก์” วิ่งยกครัว! ชู CIMBT ขึ้นสูงสุด 50% – TTB จ่อไปต่ออัพไซด์ 37.17%

5 แบงก์ ราคาวิ่งชนะ “ดัชนี” รอบเกือบ 11 เดือน! นำทีม CIMBT ขึ้นสูงสุด 50%, SCB เปลี่ยนแปลง 41.71%, LHFG เปลี่ยนแปลง 40.95%, KBANK เปลี่ยนแปลง 25.22% และ KKP เปลี่ยนแปลง 14% ส่วน TTB นั้นจ่อไปต่ออัพไซด์ 37.17%


บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยช่วงปี 2564 นับจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน จะเห็นได้ว่า SET Index เคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway up เพราะนับจากสิ้นปี 2563 ดัชนีปิดอยู่ที่ 1,449.35 จุด จนกระทั่งมาถึงวันที่ 21 ต.ค. 2564 ดัชนีปิดอยู่ที่ 1,643.42 จุด ปรับตัวขึ้น 194.03 จุด หรือขึ้นไป 13.39% ท่ามกลางความกดดันหลักยังเป็นเรื่องของสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังระบาดกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นอยู่ก็ตาม

เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มแบงก์นับจากต้นปี 2564 จนถึงวันที่ 21 ต.ค. 2564 ถือว่าราคาหุ้นต่างปรับตัวขึ้นไปในทิศทางเดียวกับดัชนี SET Index ซึ่งนับว่าให้ผลตอบแทนยังแก่ผู้ถือหุ้นโดยเฉพาะนักลงทุน VI ด้วยส่วนต่างของราคาหากถือหุ้นมาก่อนต้นปีนี้

ทั้งนี้จากกรณีของ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT โดย ณ วันที่ 30 ธ.ค. 2563 ราคาหุ้นอยู่ที่ 0.60 บาท จนถึงวันที่ 21 ต.ค. 2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ 0.90 บาท บวก 0.30 บาท หรือบวกไป 50% ถัดมา ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB โดย ณ วันที่ 30 ธ.ค. 2563 ราคาหุ้นอยู่ที่ 87.50 บาท จนถึงวันที่ 21 ต.ค. 2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ 124.00 บาท บวก 36.50 บาท หรือบวกไป 41.71%

รวมทั้ง บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG โดย ณ วันที่ 30 ธ.ค. 2563 ราคาหุ้นอยู่ที่ 1.05 บาท จนถึงวันที่ 21 ต.ค. 2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ 1.48 บาท บวก 0.43 บาท หรือบวกไป 40.95% ส่วน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK โดย ณ วันที่ 30 ธ.ค. 2563 ราคาหุ้นอยู่ที่ 113.00 บาท จนถึงวันที่ 21 ต.ค. 2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ 141.50 บาท บวก 28.50 บาท หรือบวกไป 25.22% และธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP โดย ณ วันที่ 30 ธ.ค. 2563 ราคาหุ้นอยู่ที่ 51.75 บาท จนถึงวันที่ 21 ต.ค. 2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ 59.00 บาท บวก 7.25 บาท หรือบวกไป 14.00%

นอกจากนี้ยังมีทาง ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY, ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB, ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL และ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP สามารถดูความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นจากตารางประกอบด้านล่าง

พร้อมกระนั้นเชื่อว่าราคาหุ้นในกลุ่มแบงก์ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยบางแบงก์ยังมีอัพไซด์หากเทียบกับราคาเป้าหมายของนักวิเคราะห์ ได้แก่ SCB ทางบล.ทรีนีตี้ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 139.00 บาท หากเทียบกับราคาหุ้นปิดเมื่อวันที่ 21 ต.ค.2564 ที่ 124.00 บาท เท่ากับว่ายังมีอัพไซด์ 12.10% , KBANK ทางบล.ทรีนีตี้ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 158.00 บาท หากเทียบกับราคาหุ้นปิดเมื่อวันที่ 21 ต.ค.2564 ที่ 141.50 บาท เท่ากับว่ายังมีอัพไซด์ 11.66%, BBL ทางบล.ทรีนีตี้ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 151.00 บาท หากเทียบกับราคาหุ้นปิดเมื่อวันที่ 21 ต.ค.2564 ที่ 122.00บาท เท่ากับว่ายังมีอัพไซด์ 23.77%,

ขณะที่ KKP ทางบล.เคทีบีเอสที แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 67.00 บาท หากเทียบกับราคาหุ้นปิดเมื่อวันที่ 21 ต.ค.2564 ที่ 59.00 บาท เท่ากับว่ายังมีอัพไซด์ 13.56%, KTB ทางบล. เคจีไอ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 15.40 บาท หากเทียบกับราคาหุ้นปิดเมื่อวันที่ 21 ต.ค.2564 ที่ 11.80 บาท เท่ากับว่ายังมีอัพไซด์ 30.51% และ TTB ทางบล.กรุศรี แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 1.55 บาท หากเทียบกับราคาหุ้นปิดเมื่อวันที่ 21 ต.ค.2564 ที่ 1.13 บาท เท่ากับว่ายังมีอัพไซด์ 37.17%,

*อนึ่งข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Back to top button