“ตลาดเอเชีย” เปิดบวก! รับแรงหนุน “หุ้นเทสลา” หลังยอดสั่งซื้อรถ EV ทะลัก
“หุ้นเอเชีย” เปิดบวก! ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ จากแรงหนุนราคาหุ้นเทสลาที่พุ่งขึ้นกว่า 12% ขานรับยอดสั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมากถึง 1 แสนคัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวขึ้นตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กซึ่งปิดทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.2564) โดยได้แรงหนุนจากราคาหุ้นเทสลาที่พุ่งขึ้นกว่า 12% ขานรับยอดสั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมากถึง 100,000 คัน ขณะเดียวกันนักลงทุนยังจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีในสัปดาห์นี้
โดยดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,927.61 จุด พุ่งขึ้น 327.20 จุด หรือ +1.14%, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,612.83 จุด เพิ่มขึ้น 2.97 จุด หรือ +0.08% ส่วนดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,234.94 จุด เพิ่มขึ้น 102.91 จุด หรือ +0.39%
สำหรับตลาดภูมิภาคได้รับปัจจัยบวก หลังราคาหุ้นเทสลาพุ่งขึ้น 12.66% ปิดตลาดที่ระดับ 1,024.86 ดอลลาร์ ส่งผลให้เทสลากลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ขานรับข่าวที่ว่า บริษัทเฮิร์ซ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถยนต์เช่ารายใหญ่ของโลก ได้สั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลาจำนวนมากถึง 100,000 คัน ทั้งนี้ คำสั่งซื้อดังกล่าวถือเป็นคำสั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าครั้งใหญ่ที่สุด และจะทำรายได้ให้แก่เทสลาถึง 4.20 พันล้านดอลลาร์ โดยภายใต้ข้อตกลงนี้ เทสลาจะส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าให้แก่เฮิร์ซภายในสิ้นปี 2565
ขณะเดียวกัน หุ้นของบริษัทผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในเอเชีย-แปซิฟิกยังพุ่งขึ้นเช้านี้ด้วยเช่นกัน โดยหุ้นของพานาโซนิคทะยานขึ้น 5.60% และหุ้น LG Chem เพิ่มขึ้น 2.07%
ส่วนนักลงทุนยังจับตาผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ เฟซบุ๊ก อัลฟาเบท ไมโครซอฟท์ แอมะซอน และแอปเปิล ขณะที่บริษัทแคทเธอร์พิลลาร์ โคคา-โคลา โบอิ้ง และแมคโดนัลด์ มีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการเช่นกัน
ด้านข้อมูลจาก Refinitiv ระบุว่า บริษัทจำนวน 117 แห่งในดัชนี S&P 500 ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 3 แล้ว โดย 84% ในจำนวนนี้มีผลประกอบการที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ และนักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทจดทะเบียนจะมีการขยายตัวของกำไรในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นถึง 35%