SCGP โกยกำไรไตรมาส 3 กว่า 1.78 พันลบ. หนุน 9 เดือนโตทะลุ 6.17 พันลบ.

SCGP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/64 อยู่ที่ระดับ 1.78 พันลบ. เติบโต 33% จากปีก่อน หนุนงวด 9 เดือนแรกโตทะลุ 6.17 พันลบ. หรือเติบโต 24% รับรายได้ขายธุรกิจเยื่อและกระดาษ รวมถึงธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหาร ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง


บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/64 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

โดยรายได้จากการขายของสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในช่วงไตรมาส 3/64 เท่ากับ 27,256 ล้านบาท (ก่อนตัดรายการบัญชีระหว่างส่วนงาน) เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากการควบรวมกิจการกับผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบคงรูป Duy Tan และผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษ Intan Group

รวมถึงความสามารถในการส่งออกกระดาษบรรจุภัณฑ์ ไปยังภูมิภาคใหม่ ๆ เนื่องจากความต้องการซื้อภายในประเทศอ่อนตัวจากสถานการณ์โรคระบาด EBITDA เท่ากับ 3,597 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 16% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และมี EBITDA margin เท่ากับ 13%

ด้านรายได้จากการขายของสายธุรกิจเยื่อและกระดาษ เท่ากับ 5,315 ล้านบาท (ก่อนตัดรายการบัญชีระหว่างส่วนงาน) เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงเล็กน้อยที่ 1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และมี EBITDA ที่ 965 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 253% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 16% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน

โดยมี EBITDA margin ที่ 18% กำไรสำหรับงวดอยู่ที่ 292 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 320% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 44% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากความต้องการใช้กระดาษพิมพ์เขียนที่ลดลงจากนโยบายการทำงานที่บ้าน และอัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization rate) ที่ลดลงของบรรจุภัณฑ์อาหารในประเทศเวียดนามเนื่องด้วยความ ผันผวนในห่วงโซ่อุปทานจากสถานการณ์โรคระบาดในประเทศ

สำหรับรายได้จากการขายจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหารในไตรมาสที่ 3 ปี 2564 เท่ากับ 1,127 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 265% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์การปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ เพื่อเร่งขยายสัดส่วนธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหาร ทั้งนี้รายได้จากการขายของธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหารเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 24% ของรายได้จากการขายในสายธุรกิจเยื่อและกระดาษ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

Back to top button