สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 26 ต.ค. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 26 ต.ค. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) โดยทั้งดาวโจนส์และ S&P500 ยังคงปิดทำนิวไฮ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทเจเนอรัล อิเลคทริค นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายในเดือนต.ค.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,756.88 จุด เพิ่มขึ้น 15.73 จุด หรือ +0.04%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,574.79 จุด เพิ่มขึ้น 8.31 จุด หรือ +0.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,235.71 จุด เพิ่มขึ้น 9.01 จุด หรือ +0.06%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 475.74 จุด เพิ่มขึ้น 3.53 จุด หรือ +0.75%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,766.51 จุด เพิ่มขึ้น 53.64 จุด หรือ +0.80%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,757.06 จุด เพิ่มขึ้น 157.83 จุด หรือ +1.01% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,277.62 จุด เพิ่มขึ้น 54.80 จุด หรือ +0.76%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) เป็นวันที่ 3 ติดต่อกันและปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 20 เดือน โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน และยังได้แรงหนุนจากการที่ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นทำนิวไฮด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,277.62 จุด เพิ่มขึ้น 54.80 จุด หรือ +0.76%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ตลาดน้ำมันจะเผชิญภาวะตึงตัวมากขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ในขณะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้ และการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 4 พ.ย.นี้

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 84.65 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. 2557

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 86.40 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. 2561

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 1,800 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวัน นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 13.4 ดอลลาร์ หรือ 0.74% ปิดที่ 1,793.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 50.4 เซนต์ หรือ 2.05% ปิดที่ 24.088 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 30.9 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 1,032.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 43.40 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 2,004.80 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายแห่งในสัปดาห์นี้ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ เช่น ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.14% แตะที่ 93.9425 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 114.14 เยน จากระดับ 113.70 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9196 ฟรังก์ จากระดับ 0.9195 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2384 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2385 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1597 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1612 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3766 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3769 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7506 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7493 ดอลลาร์สหรัฐ

 

    

Back to top button