HENG เดินหน้าขยายพอร์ตสินเชื่อ ย้ำ “สคบ.” คุมดบ.เช่าซื้อไม่กระทบ
HENG เร่งขยายสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ พร้อมลงทุนขยายสาขาเพิ่มเติม ย้ำชัด สคบ.เล็งออกกฎคุมดอกเบี้ยเช่าซื้อรถมือสองไม่กระทบพอร์ตและรายได้
นางสุธารทิพย์ พิสิฐบัณฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ HENG ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายใหญ่ในภาคเหนือภายใต้แบรนด์ “เฮงลิสซิ่ง” เปิดเผยว่า บริษัทฯ เร่งเดินหน้าขยายขีดความสามารถการให้บริการทางการเงินแก่ลูกค้าผ่านผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เพื่อหลากหลาย เพื่อสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้แก่ลูกค้าในแต่ละท้องถิ่นด้วยความโปร่งใส ภายใต้แนวคิด “ใครๆ ก็กู้ได้”
โดยมีแผนขยายพอร์ตสินเชื่อภายใต้การกำกับที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ) เพิ่มสัดส่วนรายได้จากพอร์ตสินเชื่อในกลุ่มดังกล่าวในอีก 2 ปีข้างหน้าเป็น 40-50% ของพอร์ตสินเชื่อรวมที่มีหลักประกัน จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 27%
ทั้งนี้ ตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถมีศักยภาพขยายตัวได้อีกมาก จึงเป็นโอกาสของ HENG นำเสนอสินค้าผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อตอบสนองความต้องการแก่คนท้องถิ่นในภูมิภาคต่าง ๆ ได้เพิ่มเติม ซึ่งเกณฑ์การพิจารณาปล่อยสินเชื่อจะเป็นไปอย่างรัดกุม คำนึงถึงวงเงินสินเชื่อที่ลูกค้าต้องการ ความสามารถชำระค่างวดของลูกค้า อัตราดอกเบี้ย ช่วงระยะเวลาผ่อนชำระ หลักทรัพย์ที่นำมาค้ำประกัน เพื่อคงคุณภาพพอร์ตสินเชื่อโดยรวมให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี
ส่วนสินเชื่อประเภทเช่าซื้อรถมือสอง ซึ่งมีสัดส่วน 65% ของพอร์ตสินเชื่อที่มีหลักประกัน แม้ว่าสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จะเตรียมออกประกาศว่าคุมอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อไม่เกิน 15% และห้ามเก็บหนี้ส่วนที่เหลือกรณีผู้เช่าซื้อใช้สิทธิยกเลิกสัญญาด้วยการส่งมอบรถคืน ไม่ได้ส่งผลกระทบการดำเนินงานแต่อย่างใด เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อรถมือสองของ HENG ในปัจจุบันที่ให้แก่ลูกค้าอยู่ในเพดานอัตราดอกเบี้ยที่ทาง สคบ. กำหนดอยู่แล้ว และกลับมองว่าจะเป็นโอกาสที่ดีของ HENG ที่มีจุดแข็งเป็นกลุ่มพันธมิตรเต็นท์รถมือสองมากกว่า 5,100 รายทั่วประเทศ เพิ่มโอกาสนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อเช่าซื้อรถมือสองให้แก่ลูกค้าในการใช้บริการสินเชื่อของ “เฮงลิสซิ่ง” ที่มีความยืดหยุ่นและเข้าใจลูกค้า ส่งผลดีต่อพอร์ตสินเชื่อรวมและรายได้จากอัตราดอกเบี้ยของฐานลูกค้ากลุ่มนี้เพิ่มขึ้นในอนาคต
ขณะเดียวกัน HENG มีแผนงานขยายสาขาไปภูมิภาคอื่น ๆ เน้นพื้นที่ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก จากเดิมที่มีความแข็งแกร่งในเขตภาคเหนือ ณ 30 มิ.ย.2564 มีทั้งหมด 451 สาขา โดยตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลายด้วยทีมพนักงานคนท้องถิ่นที่มีความเข้าใจในความต้องการเงินทุนและคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของลูกค้า
ส่วนแนวโน้มพอร์ตสินเชื่อรวมในไตรมาส 3/2564 ยังขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ แม้มีปัจจัยลบจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 เนื่องจากลูกค้าต้องการแหล่งเงินทุนนำไปใช้หมุนเวียนในชีวิตประจำวันและเป็นเงินทุนประกอบอาชีพ ทำให้รายได้จากดอกเบี้ยยังเติบโตได้ต่อเนื่อง