สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 พ.ย. 2564
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 พ.ย. 2564
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ทำสถิติปิดที่เหนือระดับ 4,700 จุดเป็นครั้งแรก ขานรับสภาคองเกรสสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรการที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐให้แข็งแกร่งขึ้น โดยข่าวดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มวัสดุ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,432.22 จุด เพิ่มขึ้น 104.27 จุด หรือ +0.29%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,701.70 จุด เพิ่มขึ้น 4.17 จุด หรือ +0.09% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,982.36 จุด เพิ่มขึ้น 10.77 จุด หรือ +0.07%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.) ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ โดยหุ้นทรัพยากรพื้นฐานและหุ้นพลังงานนำตลาดปรับตัวขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันและราคาโลหะพื้นฐานปรับตัวขึ้นจากแนวโน้มอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น หลังจากสหรัฐอนุมัติกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 483.61 จุด เพิ่มขึ้น 0.17 จุด หรือ +0.04%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,047.48 จุด เพิ่มขึ้น 6.69 จุด หรือ +0.10%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,046.52 จุด ลดลง 7.84 จุด หรือ -0.05% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,300.40 จุด ลดลง 3.56 จุด หรือ -0.05%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเดินทางและกลุ่มที่เกี่ยวกับผู้บริโภค ขณะที่เงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นถ่วงหุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวลงด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,300.40 จุด ลดลง 3.56 จุด หรือ -0.05%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการที่สภาคองเกรสสหรัฐผ่านร่างกฎหมายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งคาดว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในประเทศ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ หรือ 0.80% ปิดที่ 81.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 0.80% ปิดที่ 83.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่ธนาคารกลางหลายแห่งซึ่งรวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 11.20 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่ 1,828 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 38.50 เซนต์ หรือ 1.59% ปิดที่ 24.542 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 24.20 ดอลลาร์ หรือ 2.34% ปิดที่ 1,060 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 50.10 ดอลลาร์ หรือ 2.50% ปิดที่ 2,077.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดอลลาร์ดีดตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือนเมื่อวันศุกร์ ขานรับตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.29% แตะที่ 94.0503 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.22 เยน จากระดับ 113.40 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2444 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2457 ดอลลาร์แคนาดา อย่างไรก็ดี ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9132 ฟรังก์ จากระดับ 0.9126 ฟรังก์
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1588 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1549 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3555 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3480 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7425 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7393 ดอลลาร์