“ฟินันเซียฯ” แนะซื้อ DCC จ่อรับ “ปันผล” 0.04 บ. คาดกำไรทั้งปีแตะ 1.65 พันลบ.
บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะซื้อ DCC จ่อรับ “ปันผล” 0.04 บ./หุ้น ขึ้น XD 19 พ.ย.นี้ คาดกำไรทั้งปี 64 แตะ 1.65 พันลบ. ชูราคาเป้าหมาย 3.40 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (9 พ.ย.64) ประเมินเกี่ยวกับหุ้น บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC โดยมองกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2564 อยู่ที่ 366 ล้านบาท ลดลง 19% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ใกล้เคียงนักวิเคราะห์และตลาดคาดไว้ก่อนหน้า
โดยกำไรชะลอตัวตามทิศทางของยอดขายที่ลดลงเหลือ 1.8 พันล้านบาท โดยลดลง 16% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน จากผลกระทบ COVID-19 รุนแรง และมาตรการล็อกดาวน์ รวมถึงเข้าสู่ฤดูฝนเต็มตัวและน้ำท่วมในปลายเดือนก.ย. กดดันกำลังซื้อของผู้บริโภค ขณะที่ SG&A ต่อยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 20% จาก 18-19% ใน ไตรมาส 2 ปี 2564 และ ไตรมาส 3 ปี 2563 จากต้นทุนขนส่งสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน
อย่างไรก็ดี แม้ต้นทุนก๊าซซึ่งเป็นต้นทุนหลักจะเร่งขึ้น แต่ถูกชดเชยได้ทั้งหมดจากการปรับเพิ่มราคาขาย 35 บาท และผลของ Product Mix จากผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างกระเบื้องขนาดใหญ่ที่มาร์จิ้นสูง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับขึ้นเป็น 44.2% จาก 43.6% ในไตรมาส 2 ปี 2564 และ 43% ในไตรมาส 3ปี 2563
ส่วนกำไรงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 คิดเป็น 80% ของคาดการณ์กำไรทั้งปี ขณะที่ไตรมาส 4 ปี 2564 แม้มีปัจจัยหนุนจากโควิดคลี่คลาย และ Pent-up Demand หลังคลายล็อกดาวน์ แต่ผลกระทบของภาวะน้ำท่วมเดือนต.ค.ในหลายจังหวัด ซึ่งลูกค้าหลักของ DCC อยู่ในต่างจังหวัดเป็นสัดส่วนกว่า 86% ของยอดขายรวม ทำให้ภาพการฟื้นตัวยังไม่ชัดเจน ทั้งนี้ คงประมาณการกำไรปี 2564 อยู่ที่ 1.65 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน และขยายตัวอีก 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนเป็น 1.71 พันล้านบาทในปี 2565
สำหรับตามความต้องการใช้กระเบื้องที่ฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ แม้มีประเด็นกดดันที่ต้องติดตามจากต้นทุนพลังงานที่ยังทรงตัวสูง และราคาต้นทุนวัตถุดิบขาขึ้น แต่มองว่าบริษัทจะมีกลยุทธ์ในการบรรเทาความเสี่ยงดังกล่าวทั้งการปรับขึ้นราคาขาย และการเพิ่มสัดส่วนในสินค้า High-End อย่างกระเบื้องขนาดใหญ่ 60×120, 80×80 และ 40×80
ด้านนักวิเคราะห์ยังคงแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 2565 ที่ 3.40 บาท อิง PER เดิม 18 เท่า จากราคาหุ้นมี Upside เปิดกว้างขึ้นมากกว่า 10% ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานดีจากการปรับกลยุทธ์ได้เร็วรับมือกับโควิดและต้นทุนที่สูงขึ้น ทำให้กำไรสามารถเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพ
อีกทั้ง DCC ยังมีความโดดเด่นในการจ่ายปันผลดีและสม่ำเสมอ คาดให้ผลตอบแทน 6.0-6.5% ต่อปี ตามนโยบาย Payout 100% หลังได้รับเงินเข้ามาจากการแปลง DCC-W1 โดยงวดไตรมาส 3 ปี 2564 ประกาศจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น ตามคาด คิดเป็น Yield 1.4% ขึ้น XD วันที่ 19 พ.ย. และจ่ายปันผล 3 ธ.ค. 2564