สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 พ.ย. 2564

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่พุ่งสูงสุดในรอบกว่า 30 ปีอาจเป็นปัจจัยผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,079.94 จุด ลดลง 240.04 จุด หรือ -0.66%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,646.71 จุด ลดลง 38.54 จุด หรือ -0.82% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,622.71 จุด ลดลง 263.84 จุด หรือ -1.66%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการที่บริษัทในกลุ่มสื่อและกลุ่มพลังงานเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตร หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเกินคาด

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 483.76 จุด เพิ่มขึ้น 1.05 จุด หรือ +0.22%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,045.16 จุด เพิ่มขึ้น 1.89 จุด หรือ +0.03%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,067.83 จุด เพิ่มขึ้น 27.36 จุด หรือ +0.17% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,340.15 จุด เพิ่มขึ้น 66.11 จุด หรือ +0.91%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) โดยปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 1 เดือน โดยได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง และหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น นอกจากนี้ การคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนได้ช่วยหนุนตลาดด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,340.15 จุด เพิ่มขึ้น 66.11 จุด หรือ +0.91%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) โดยราคาสัญญาน้ำมันดิ่งหลุดจากระดับ 82 ดอลลาร์ หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.81 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 81.34 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 2.14 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 82.64 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 17.5 ดอลลาร์ หรือ 0.96% ปิดที่ 1,848.3 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. 2564

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 45.4 เซนต์ หรือ 1.87% ปิดที่ 24.772 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 15.6 ดอลลาร์ หรือ 1.47% ปิดที่ 1,077 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 16.80 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 2,038.90 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า การพุ่งขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.94% แตะที่ 94.8460 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.80 เยน จากระดับ 112.83 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9179 ฟรังก์ จากระดับ 0.9104 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2496 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2437 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1483 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1593 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3414 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3561 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7332 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7378 ดอลลาร์สหรัฐ