โบรกฯ ชี้ผลงาน SONIC ไตรมาส 4 โดดเด่น หนุนอัพไซด์กำไรปีนี้ราว 10%
“ฟินันเซีย” ชี้กำไร SONIC ไตรมาส 4 ยังอยู่ในเกณฑ์สูงแม้ว่าธุรกิจขนส่งทางเรือจะชะลอตามฤดูกาลก็ตาม คาดกำไรปีนี้อาจมี Upside ราว 10%
บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (11.พ.ย.2564 ) โดยประเมินเกี่ยวกับ บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC ว่า บริษัทฯ ได้รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/2564 ที่ 70.50 ล้านบาท หากตัดรายการพิเศษ ได้แก่ กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน, ค่าสินไหมทดแทนรวม 8.50 ล้านบาท จะเป็นกำไรปกติ 61.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.20% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 437.30% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งดีกว่าคาด 11% จากรายได้ที่สูงกว่าคาด
โดยในไตรมาสนี้เป็น High season ของฤดูกาลส่งออก ในขณะที่ตู้คอนเทนเนอร์ยังขาดแคลน ทำให้ค่าระวางเรือ SCFI ยังคงปรับสูงขึ้น 33.80% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 262.20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งทำให้ธุรกิจขนส่งทางเรือยังคงเป็นธุรกิจหลัก โดยมีสัดส่วน 80.10% ของรายได้รวม ผลักดันให้รายได้รวมเพิ่มขึ้น 45.10% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 227.70% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นชะลอลงเป็น 15.10% ลดลงเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกันจากนโยบายบริษัทฯ ที่จะไม่ผลักภาระค่าระวางที่สูงขึ้นให้เป็นภาระแก่ลูกค้าทั้งหมดเพื่อรักษาความสัมพันธ์อันยาวนาน
ทั้งนี้ธุรกิจปล่อยสินเชื่อรถบรรทุกและรถหัวลากชะลอเล็กน้อยเนื่องจากเกิดปัญหาการขาดแคลนชิพเช่นเดียวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่รายได้ดอกเบี้ยในไตรมาส 3/2564 ยังโตต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 40.10% จากไตรมาสก่อน เป็น 2.10 ล้านบาท มีสัดส่วน 3.40% ของกำไรปกติ
ขณะที่กำไรปกติในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 อยู่ที่ 144.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 358.40% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สำหรับแนวโน้มกำไรในไตรมาส 4/2564 ยังอยู่ในเกณฑ์สูงแม้ว่าธุรกิจขนส่งทางเรือจะชะลอตามฤดูกาลก็ตาม ด้านประมาณการกำไรปี 2564 ของทางฝ่ายวิจัย อาจมี Upside ราว 10% แต่ยังคงประมาณการกำไรปี 2565 ที่ 172.20 ล้านบาท และปี 2566 ที่177.0 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรที่ลดลง 9.60% จากงวดเดียวกันของปีก่อนในปี 2565 และเพิ่มขึ้น 2.80% จากงวดเดียวกันของปีก่อนในปี 2566 โดยคาดว่าค่าระวางเรือในปี 2565 จะยังคงผันผวน แม้ว่าจะอยู่ในระดับสูงกว่าในอดีตก็ตาม แต่มีความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิจัยได้ปรับราคาเป้าหมายปี 2565 ลงเป็น 4.60 บาท โดยนำ SONIC-W1 ส่วนที่เหลือ 114.90 ล้านหุ้นเข้ามารวมเพราะ In-the-Money ค่อนข้างมาก เพื่อความอนุรักษ์นิยม โดยยังคงอิงค่า PE ที่ 22 เท่า ทั้งนี้หากไม่รวม SONIC-W1ที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิ ราคาเป้าหมายจะเป็น 5.20 บาทตามเดิม อย่างไรก็ตามทางฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกน้อยลงเนื่องจากจุดที่ดีที่สุดของธุรกิจเรือกำลังจะผ่านไป แม้ว่าบริษัทฯ พยายามกระจายความเสี่ยงของรายได้ไปสู่ธุรกิจลิสซิ่งรถหัวลากซึ่งมีศักยภาพ แต่ยังไม่สามารถชดเชยธุรกิจเรือได้ในเวลาอันใกล้ Upside ในกรอบแคบทำให้แนะนำเป็น “ถือ” ราคาเป้าหมาย 4.60 บ.