TSE กำไร Q3 โต 193% แตะ 208 ลบ. รับรายได้ขาย-บริการพุ่ง
TSE อวดกำไร Q3 โต 193% แตะ 208 ลบ. รับรายได้ขาย-รายได้บริการพุ่ง รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ลดลง ส่วน งวด 9 เดือนมีกำไร 593 ลบ. โต 85%
บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรก สิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2564 ดังนี้
โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการรวมสำหรับงวด 3 เดือน ไตรมาส 3/2564 จำนวน 414.00 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่า จากงวดเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย ทั้งนี้มีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 408.54 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 5.46 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.34 ในขณะเดียวกันกลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการรวมสำหรับงวด 9 เดือน จำนวน 1, 204.70 ล้านบาท โดยสูงกว่าจากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 1,198.98 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 5.72 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.48
สำหรับรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้นจากโครงการที่ซื้อใหม่ โดยกลุ่มบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการรับรู้รายได้เต็มไตรมาสของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ซื้อใหม่ในระหว่างปี 2563 จำนวนรวม 18 เมกะวัตต์ที่จังหวัดอยุธยา อุดรธานี และอ่างทอง รวมถึงการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ลอยน้ำ ที่สร้างเสร็จและดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วในเดือนพฤษภาคม 2564 ทำให้มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นจำนวน 0.22 ล้านบาทใยงวด 3 เดือนของไตรมาสที่ 3/2564 และเพิ่มขึ้นจำนวน 6.42 ล้านบาทในงวด 9 เดือน
อีกทั้งรายได้จากการขายและบริการของโครงการที่ดำเนินการอยู่เดิมมีความสม่ำเสมอ ในขณะที่รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวลขนาดรวม 22.20 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าบนหลังคาอาคารจำนวนรวม 14 เมกะวัตต์ อยู่ในระดับสม่ำเสมอเมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยสามารถรับรู้รายได้จากการขายลดลงเป้นจำนวน 0.16 ล้านบาทในงวด 3 เดือนของไตรมาส 3/2564 และเพิ่มขึ้นจำนวน 2.32 ล้านบาทในงวด 9 เดือน
นอกจากนี้กลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง โดยมีค่าใช้จ่ายในการบริหารรวมสำหรับงวด 3 เดือนในไตรมาส 3/2564 จำนวน 53.47 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการบริหารรวม 59.83 ล้านบาท หรือลดลงจำนวน 6.36 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.63 และค่าใช้จ่ายในการบริหารงานรวมสำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 จำนวน 139.18 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการบริหารงานรวม 219.64 ล้านบาท หรือลดลงจำนวน 80.46 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 36.63 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของค่าที่ปรึกษาและค่าเผื่อการด้อยค่าสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นในปี 2563
อย่างไรก็ดีผลประกอบการของกลุ่มบริษัทตามงบการเงินรวมสำหรับงวด 3 เดือนของไตรมาสที่ 3/2564 มีกำไรเฉพาะส่วนของบริษัทใหญ่เท่ากับ 208.37 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไร 71.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 137.25 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 192.98 ในขณะที่งวด 9 เดือนของไตรมาส 3/2564 มีกำไรเฉพาะส่วนของบริษัทใหญ่ เท่ากับ 593.05 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไร 3320.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 273.02 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 85.31 ซึ่งเกิดจากกำไรจากการขายบริษัทย่อย 101.15 ล้านบาท รวมถึงรายการที่ไม่เป็นเงินสด ได้แก่ ผลต่างของกำไร (ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงและการลดลงของค่าเผื่อการด้อยค่าของสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นในปี 2563
ขณะเดียวกันกลุ่มบริษัทมีกำไรเบ็ดเสร็จรวมเฉพาะส่วนของบริษัทใหญ่ สำหรับงวด 3 เดือนของไตรมาส 3/2564 จำนวน 491.45 ล้านบาท เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรเบ็ดเสร็จรวม 355.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 135.96 ล้านบาท และมีกำไรเบ็ดเสร็จรวมเฉพาะส่วนของบริษัทใหญ่ สำหรับงวด 9 เดือนของไตรมาส 3/2564 จำนวน 872.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรเบ็ดเสร็จรวม 805.71 ล้านบาท จำนวน 67.14 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักเกิดจากการขายบริษัทย่อย และผลกระทบจากการแปลงค่างบการเงิน