ลุ้น M โกยกำไร Q4 แตะ 400 ลบ. หลังเปิดสาขาครบ โบรกแนะ “ซื้อ” ชูเป้า 62 บ.
“ฟินันเซีย” มอง M กำไรไตรมาส 4 แตะ 400 ลบ. หลังกลับมาเปิดให้บริการทุกสาขาอีกครั้ง คาดฟื้นตัวต่อเนื่องถึงปี 65 แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 62 บ.
บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (12 พ.ย. 2564) โดยประเมินบริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M ว่า บริษัทฯ ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2564 พลิกเป็นขาดทุนตามคาดที่ 257 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงคาดการณ์ (ทางฝ่ายวิจัยคาดไว้ 250 ล้านบาท) เป็นการขาดทุนต่อเนื่องจาก 99 ล้านบาท ในไตรมาส 2/2564 และพลิกจากที่กำไร 465 ล้านบาทในไตรมาส 3/2563 จากผลกระทบ COVID และมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด ทำให้มีสาขาที่ถูกปิดบริการชั่วคราวถึง 80% ของสาขาทั้งหมด แม้จะสามารถ Take Home และ Delivery ได้ แต่ไม่สามารถชดเชยรายได้หน้าร้านได้
ทั้งนี้ส่งผลให้ SSSG ร้าน MK ติดลบราว 48% จากงวดเดียวกันของปีก่อน, Yayoi ติดลบราว 40% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และ LSC ติดลบราว 55% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ทำให้รายได้รวมชะลอตัว 21.40% จากไตรมาสก่อน และชะลอตัว 48.10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และจากธุรกิจร้านอาหารมีต้นทุนคงที่สูง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงมาอยู่ที่ 60.10% จาก 63.20% ในไตรมาส 2/2564 และ 66.70% ในไตรมาส 3/2563 ถึงแม้จะเน้นควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ไม่สดใส กอปรกับมีจำนวนพนักงานลดลงราว 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน (เกิดจากพนักงานลาออกแล้วไม่รับเข้ามาเพิ่ม) ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลง 12.80% จากไตรมาสก่อน และลดลง 22.90% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ด้วยรายได้ที่ลดลงมากกว่า ทำให้สัดส่วน SGA& to Sale ปรับขึ้นเป็น 78.20% จาก 70.50% ในไตรมาส 2/2564 และ 52.70% ในไตรมาส 3/2563
อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิจัยมองผ่านผลการดำเนินงานแย่สุดในไตรมาส 3/2564 แล้ว ทั้งนี้คาดไตรมาส 4/2564 จะพลิกมีกำไรอีกครั้ง และน่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ดีกว่าที่เคยคาด ภายหลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และได้เห็นบรรยากาศการกลับไปทานอาหารในร้านกันอย่างคึกคักอีกครั้ง เบื้องต้นคาดกำไรไตรมาส 4/2564 อาจขยับขึ้นสู่ระดับ 300 – 400 ล้านบาทอีกครั้ง และน่าจะทยอยฟื้นตัวได้ต่อเนื่องในปี 2565 ทั้งการเติบโตของรายได้สาขาเดิม ที่มีฐานต่ำมากในปี 2564 รวมถึงบริษัทฯ ยังมีแผนกลับมาเปิดสาขาอีกครั้ง เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 4/2564 มีแผนเปิด 18 สาขา ซึ่งเป็นสาขาที่เตรียมการไว้ตั้งแต่ช่วงก่อนหน้า
นอกจากนี้ทางฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ไว้ที่ 113 ล้านบาท ลดลงจาก 907 ล้านบาทในปี 2563 ในขณะที่เริ่มเห็น Upside ต่อประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 จากปัจจุบันที่ทางฝ่ายวิจัยทำไว้ 2,254 ล้านบาท เนื่องจากการฟื้นตัวดูดีกว่าที่ทางฝ่ายวิจัยเคยคาดไว้ จึงมีแนวโน้มปรับเพิ่มประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายปัจจุบันที่ให้ไว้ 62 บาท (อิงค่า PE เดิม ที่ 25 เท่า) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 62 บาท
