KWM ย้ำรายได้ปีนี้โตทะลุเป้า 40% หลัง 9 เดือนกำไร “ออลไทม์ไฮ” โต 1 เท่าตัว
KWM ย้ำรายได้ปีนี้โตทะลุเป้า 40% หลัง 9 เดือนกำไร “ออลไทม์ไฮ” โต 1 เท่าตัว วางงบลงทุน 50 ลบ. ลุยธุรกิจกัญชง-กัญชา-พืชกระท่อม-เครื่องสกัด เต็มสูบ
นายเอกพันธ์ วนโกสุม ประธานกรรมการบริหารบริษัท เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM ผู้นำในการประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ที่ใช้ในการเกษตรและมีประสบการณ์ด้านงานวิศวกรรมเครื่องกล และผู้นำในการผลิตเครื่องสกัดสารสกัดจากพืชสมุนไพร แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ
โดยงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขาย จำนวน 437.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 171.57 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 64.42 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) และมีกำไรสุทธิ 70.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.70 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 103.87 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน)
ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 128.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.71 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 76.96 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) ขณะที่บริษัทมีกำไรสุทธิ 19.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.85 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 54.58 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน)
เนื่องจากภาพรวมอุตสาหกรรมการเกษตรที่มีการเติบโตที่ดีขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2564 ด้วยสภาพอากาศโดยทั่วไปที่เอื้ออำนวย ไม่มีปัญหาภัยแล้งที่รุนแรง ทำให้สถานการณ์การผลิตพืชดีกว่าปีที่ผ่านมา ประกอบกับในช่วงครึ่งปีแรก ราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ให้เกษตรกรเพิ่มปริมาณการผลิต
โดยภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในไตรมาส 3/2564 มีขยายตัวร้อยละ 6.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเป็นการเติบโตจากการเพาะปลูกพืช ที่ขยายตัวร้อยละ 9.6 และการให้บริการทางการเกษตร ที่ขยายตัวร้อยละ 4.8 โดยสินค้าของบริษัทฯมียอดขายที่เติบโตขึ้นในเกือบทุกผลิตภัณฑ์ ยกเว้นสินค้าประเภทใบเกลียว ที่ในไตรมาส 3/64 มียอดขายลดลงร้อยละ 17.18 เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 3/63 เนื่องจาก Supply Chain ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้สายการผลิตหยุดชะงักชั่วคราว ส่งผลให้ยอดขายของสินค้าดังกล่าวลดลงในไตรมาสนี้
นายเอกพันธ์ วนโกสุม ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค (KWM) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯแจ้งงบผลการดำเนินงาน งวด 9 เดือน จะเห็นได้ว่าบริษัทฯมีความสามารถในการทำรายได้ 437.89 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าสัดส่วนรายได้ในปีก่อนที่ทำไว้ 355.06 ล้านบาท เป็นการการันตีตอกย้ำให้เห็นศักยภาพการเติบของบริษัทฯ ที่บริษัทฯจะมีอัตราการเติบโตในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 40% อย่างแน่นอน
ทั้งนี้เป็นผลมาจากภาพรวมอุตสาหกรรมการเกษตรซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ KWM ยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เป็นผลจากแรงขับเคลื่อนในการใช้สินค้าเครื่องจักรและอุปกรณ์การเกษตรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยจะเห็นจากดีมานด์การใช้กลุ่มเครื่องจักร และอุปกรณ์เกษตร ที่มีความต้องการใช้เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงราคาสินค้าที่ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น เป็นแรงผลักดันให้เกษตรกรขยายการผลิตเพิ่มขึ้นตาม
นอกจากนี้ บริษัทฯได้วางงบลงทุนไว้ 50 ล้านบาท เพื่อเพิ่มเครื่องจักรในการผลิตไลน์ใหม่ ซึ่งจะเป็นไลน์การผลิตที่ 3 ในระบบออโตเมชั่น ที่สามารถลดการใช้แรงงานและสามารถผลิตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 1/2565 นอกจากนี้ยังมีแผนขยายการลงทุนในคลังสินค้าเพื่อรองรับความต้องการสินค้าช่วงไฮซีซั่น ที่มีความต้องการสินค้ามากกว่าช่วงเวลาปกติ 2-3 เท่าตัว ซึ่งคลังสินค้าดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/2565
พร้อมกันนี้ บริษัทฯยังเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมเครื่องสกัดสารด้วยระบบ SUPERCRITICAL FLUID CO2 EXTRACTION เพื่อสกัดสารจากพืชสมุนไพรไทย โดยล่าสุดได้มีการเปิดตัวเครื่องสกัดเป็นรุ่นที่2 KWM EXTRACTOR 2.0 ภายใต้รูปแบบการสกัด Supercritical CO2 Extraction (ในกลุ่มธุรกิจ SOIL-OIL-EXTRACTION) ที่การันตีศักยภาพเครื่องสกัดสัญชาติไทยที่เปรียบเท่าเครื่องสกัดจากต่างประเทศ โดยใช้ระยะเวลาในการสกัด 4 – 6 ชั่วโมง
โดยได้ส่งมอบเครื่องสกัดเป็นรุ่นที่2 ให้กับลูกค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ และยังอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการเข้าติดตั้งเครื่องสกัด KWM Extractor 1.0 ให้กับลูกค้ารายใหม่อีกไม่ต่ำว่า 2 ราย โดยคาดว่ามีโอกาสจะติดตั้งไม่ต่ำกว่า 5 เครื่องภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการผลิตเครื่องจักร ทั้งด้านอุปกรณ์การเกษตร และนวัตกรรมการผลิตเครื่องสกัดสารจากพืชสมุนไพร ที่ครบวงจรได้เป็นอย่างดี