“ดาวโจนส์” ปิดบวก 179 จุด นลท.ขานรับ J&J ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ หนุนหุ้นเทคโนฯวิ่งแรง

“ดาวโจนส์” ปิดบวก 179.08 จุด รับแรงหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลัง จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (12 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และนักลงทุนขานรับแผนปรับโครงสร้างของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) แม้ผิดหวังกับการเปิดข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐก็ตาม

โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,100.31 จุด เพิ่มขึ้น 179.08 จุด หรือ +0.50%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,682.85 จุด เพิ่มขึ้น 33.58 จุด หรือ +0.72%  และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,860.96 จุด เพิ่มขึ้น 156.68 จุด หรือ +1.00%

ขณะที่ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 06%, ดัชนี S&P500 ลดลง 0.3% และดัชนี Nasdaq ลดลง 0.7% ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้ตลาดยุติการปรับตัวขึ้นเป็นเวลา 5 สัปดาห์ติดต่อกัน

ทั้งนี้ หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดบวก โดยกลุ่มบริการด้านการสื่อสาร และกลุ่มเทคโนโลยี ปรับตัวขึ้น 1.68% และ 1.19% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสาธารณูปโภค ลดลง

โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนได้พากันเข้าซื้อหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ อาทิ หุ้นไมโครซอฟท์ และหุ้นแอปเปิล

ส่วนราคาหุ้นของ J&J ปิดตลาดพุ่งขึ้น 1.2% ขานรับแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ โดย J&J จะแยกกิจการออกเป็น 2 บริษัท ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเวลา 18-24 เดือน

ทั้งนี้ J&J จะแยกธุรกิจสินค้าเพื่อผู้บริโภคและผลิตภัณฑ์ด้านเวชภัณฑ์ออกจากกัน โดยจะจัดตั้งบริษัทใหม่เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าพันแผล (Band-Aids) และแป้งเด็ก

ขณะที่หุ้นเทสลาปิดร่วงลง 2.83% หลังจากมีรายงานว่า นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลาได้ขายหุ้นออกมาอีกมูลค่าราว 700 ล้านดอลลาร์

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้น แม้นักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันศุกร์ โดยผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ ดิ่งลงสู่ระดับ 66.8 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2554 จากระดับ 72.8 ในเดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 72.5

ด้านสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลงสู่ระดับ 10.44 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 10.46 ล้านตำแหน่ง จากระดับ 10.63 ล้านตำแหน่งในเดือนส.ค.

สำหรับข้อมูลความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐที่ลดลงนั้นอาจสร้างความวิตกให้กับกลุ่มค้าปลีก ขณะใกล้ถึงฤดูกาลการใช้จ่ายในช่วงวันหยุด และบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ อาทิ วอลมาร์ท, ทาร์เก็ต, โฮม ดีโปท์ และเมซี มีแนวโน้มที่จะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์หน้า

อนึ่งข้อมูลจาก Refinitiv บ่งชี้ว่า บริษัท 459 แห่งในดัชนี S&P500 รายงานผลประกอบการออกมาแล้ว โดย 80% รายงานผลประกอบการสูงเกินคาด

Back to top button