MATI โชว์กำไร 9 เดือนทะลุ 200 ลบ. ทะยานเกิน 2,500% รับรายได้ “โฆษณาออนไลน์” โตแกร่ง

MATI รายงานกำไรไตรมาส 3/64 โต 91% แตะ 35 ลบ. ส่วนงวด 9 เดือนโตเด่น 2,500% ทะลุ 200 ลบ. รับรายได้ “โฆษณาออนไลน์” โตแกร่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) หรือ MATI รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

โดยไตรมาส 3 บริษัทฯมีรายได้รวม 186.92 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 3 ปี 2563 ที่มีรายได้รวม 183.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.78

สำหรับงวด 9 เดือน บริษัทฯมีรายได้รวม 680.11 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 499.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ36.18

โดยรายได้รวมที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการที่บริษัทฯได้กำหนดยุทธศาสตร์ธุรกิจปี 2564 เพื่อรองรับสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 โดยได้ตั้งเป้าหมายว่าในระหว่างปี 2564 ต้องเร่งสร้างรายได้จากสื่อออนไลน์ปรับรูปแบบกิจกรรมทางการตลาด พร้อมทั้งเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินโดยการบริหารจัดการที่ดินและสิ่งปลูกสร้างซึ่งปัจจุบันไม่ได้ใช้งานแล้ว เพื่อรองรับความผันผวนและความไม่แน่นอนที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ตลอดทั้งปีบริษัทฯ สามารถดำเนินงานบรรลุเป้าหมายตามที่ได้กำหนดไว้ โดยรายได้จากการขายโฆษณาออนไลน์ในไตรมาส 3 ปี 2564 เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.10 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2563

ขณะที่ความสำคัญของรายได้โฆษณาออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยพิจารณาจากสัดส่วนรายได้โฆษณาออนไลน์ต่อรายได้โฆษณารวมในไตรมาส 3 ปี2563 ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 50.17 เพิ่มเป็นร้อยละ 59.52 ในไตรมาส 3 ปี 2564 สะท้อนให้เห็นถึงการเดินหน้าปรับตัวเข้าสู่สื่อยุคใหม่อย่างเต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น

ด้านตัวเลขรายได้เชิงบวกดังกล่าวเป็นผลสะท้อนมาจากประสิทธิภาพในการบริหารจัดการแหล่งที่มารายได้ “ดิจิทัลแอดส์” (Digital Ads) ประเภทต่างๆ ให้มีศักยภาพสูงสุด อาทิ ดิสเพลย์ แอดส์ (Display Ads), เนทีฟ แอดส์ (Native Ads), ครีเอทีฟ แอดส์ (Creative Ads), โซเชียลมีเดีย แอดส์ (Social Media Ads) และวิดีโอ แอดส์ (Video Ads) เป็นต้น

ทั้งนี้ การเติบโตด้านวิดีโอแอดส์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย สำหรับ Facebook ช่วงไตรมาส 3 ของปี 2564 พบว่ามีอัตราปรับตัวเชิงบวกสอดคล้องกับยุทธศาสตร์บริษัทฯ ในการดำรงสถานะผู้นำสื่อโซเชียลมีเดีย โดยสัดส่วนการเติบโตด้านรายได้เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2563 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับร้อยละ 105 ซึ่งล่าสุด เฟซบุ๊ก ไทยแลนด์ ได้ประกาศมอบรางวัลเพจที่มียอดชมสูงสุด สาขาผู้ผลิตข่าว ประจำปี 2564 หรือ Most Watched Facebook Page under News Publisher of the Year 2021 ให้กับเพจ Khaosod -ข่าวสด ในเครือมติชน

ขณะที่รายได้วิดีโอแอดส์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย สำหรับ YouTube ตัวเลขไตรมาส 3 ปี 2564 สูงกว่าห้วงเวลาเดียวกันของปี 2563 ประมาณร้อยละ 130 ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจในไตรมาส 3 ที่ภาคธุรกิจประสบความยากลำบากมากกว่าปีที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถปรับการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับสภาพความผันผวนได้อย่างรวดเร็ว ทันสถานการณ์

โดยปรับรูปแบบการจัดกิจกรรม อาทิ มหกรรมสุขภาพออนไลน์ “เฮลท์แคร์ 2021 วัคซีน ประเทศไทย” “แคมเปญข่าวสด-มติชน ยูโร 2020”และ “ข่าวสด มติชน โตเกียวเกมส์ 2020” รวมถึงการจัดงานสัมมนาในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งงานสัมมนาแบบออนไลน์และงานสัมมนาแบบไฮบริด ส่งผลให้รายได้โฆษณารวมในไตรมาส 3 ปี 2564 ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากไตรมาส 2 ร้อยละ 11.35

ส่วนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินโดยการบริหารจัดการที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้น บริษัทฯได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นรับผิดชอบโดยเฉพาะ เพื่อจัดหาผู้ซื้อที่นำเสนอเงื่อนไขที่ดีที่สุดภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ธุรกิจ 2564 การซื้อขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นไปตามสารสนเทศที่ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2564 และวันที่ 28 มิถุนายน 2564 ซึ่งจากการดำเนินงานตามที่ชี้แจงข้างต้นทำให้งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 บริษัทฯ มีเงินสดและรายการ เทียบเท่าเงินสดรวมทั้งสินทรัพย์ทางการเงินหมุนเวียนอื่น (ในรูปของเงินฝากประจำอายุ 3-12 เดือน) รวมเป็นเงิน 1,164.02 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 59.41 ของสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น

ด้านต้นทุนขายและบริการและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในงวด 9 เดือน ประจำปี 2564 มีจำนวน 451.46 ล้านบาท ต่ำกว่างวดเดียวกันของปี 2563 ซึ่งมีจำนวน 486.53 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้ควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยต้นทุนหลักที่สำคัญคือ ต้นทุนขายและการผลิตลดลงร้อยละ 5.67 ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลงร้อยละ 10.10

อย่างไรก็ตาม ผลจากการปรับยุทธศาสตร์ธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และสามารถดำเนินการบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนด ทั้งการเติบโตของรายได้การเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการเงิน ตลอดจนการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ไตรมาส 3 ประจำปี 2564 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 34.67 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 3 ปี 2563 ที่กำไรสุทธิ 18.12 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 91.34 และผลประกอบการงวด 9 เดือน บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 203.85 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปี 2563 ที่กำไรสุทธิ 7.78 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 2,520.18

Back to top button