TTA ส่งซิก Q4 กำไรเด่น รับรู้รายได้ “ธุรกิจนอกชายฝั่ง” ราว 1.5 พันลบ.

TTA ส่งซิกไตรมาส 4 กำไรเด่น รับรู้รายได้ “ธุรกิจนอกชายฝั่ง” ราว 1.5 พันลบ. จ่อลุยขยายตลาดให้บริการไปยังแอฟริกาและอังกฤษ ส่วนธุรกิจ Food and Beverage จะเติบโตดีหลังโควิดคลี่คลาย


นายคทารัตน์ สุขแสวง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ว่า ในไตรมาส 4/2564 คาดธุรกิจเดินเรืออาจจะย่อตัวลงบ้างจากไตรมาส 3/2564 หลังจากค่าระวางเรือปรับตัวลงมาที่ 2.40 หมื่นเหรียญสหรัฐต่อวัน จากขึ้นไปที่ 3.40 หมื่นเหรียญสหรัฐต่อวันสูงสุดในรอบ 10 ปี แต่คงไม่ได้ปรับลงไปมากเหมือนกับไตรมาส 1 และ ไตรมาส 2 ที่อยู่ในระดับ 1.20 – 1.40 หมื่นเหรียญสหรัฐต่อวัน

สำหรับแนวโน้มตลาดเดินเรือในภาพรวมยังเป็นบวก (Positive) เนื่องจากความต้องการ (Demand) สูงกว่าจำนวนเรือในตลาด (Supply) โดยในปี 2564 มี Demand เติบโต 4.80% และปี 2565 คาดว่าจะเติบโต 2.40% ขณะที่ Supply ปีนี้เพิ่มขึ้น 3.50% และปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มอีก 1.50% โดยปัจจุบันการต่อเรือใหม่เติบโตเพียง 6% ต่ำสุดในรอบ 30 ปี หลังจากในปี 2559 มีภาวะ oversupply

ขณะที่ธุรกิจนอกชายฝั่ง (offshore) คาดว่าในไตรมาส 4/2564 จะกลับมามีกำไรเพราะจะรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่มีอยู่ราว 260 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะรับรู้ในไตรมาส 4/2564 ราว 48 ล้านเหรียญสหรัฐ (คิดจากค่าเงินบาท 32 บาท เท่ากับ 1,536 ล้านบาท ) รวมทั้งจะขยายตลาดให้บริการไปยังแอฟริกาและอังกฤษ จากที่เคยเน้นตลาดตะวันออกลาง โดยประเทศผู้ค้าน้ำมันก็ยังมีโครงการในแหล่งน้ำมันอื่น ๆ เช่น ในซาอุดิอาระเบีย กาตาร์ แอฟริกา

ส่วนธุรกิจ Food and Beverage ในไตรมาส 4/2564 จะดีกว่าไตรมาส 3/2564 เพราะสถานการณ์การระบาดโควิดได้คลี่คลายลงแล้ว

อย่างไรก็ดีผลประกอบการในไตรมาส 3/2564 บริษัทฯ มีรายได้ 5,948 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 83% และเพิ่มขึ้น 16%จากไตรมาสก่อน ที่มาจากการเติบโตของธุรกิจเดินเรือที่ค่าระวางเรือสูงสุดในรอบ 10 ปี  ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น เพิ่มขึ้น 75% ในไตรมาสก่อน และ 193% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มาที่ 2,480 ล้านบาท ทำให้กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายมาที่ 1,936 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 486% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และ 91% จากไตรมาสก่อน

ขณะที่มีกำไรสุทธิ 1,614 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเติบโต 219% จากไตรมาส 3/2563 และเติบโต 204% จากไตรมาสก่อน

Back to top button