MINT ผนึก SCB เปิดตัว “ESG-Linked Interest Rate Swap” ยกระดับธุรกรรมการเงิน
MINT ผนึก SCB เปิดตัว “ESG-Linked Interest Rate Swap” ยกระดับธุรกรรมการเงิน โดยนำผลการดำเนินงาน ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล องค์กรมาใช้เพื่อมาพิจารณาดอกเบี้ย ซึ่งมีผลกระทบเชิงบวกต่อต้นทุนทางการเงินขององค์กร เป็นการต่อยอดความสำเร็จจากความร่วมมือในการทำสัญญาอนุพันธ์อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย THOR ในปีที่ผ่านมาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (17 พ.ย. 64) บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ร่วมกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ยกระดับความร่วมมือในการทำธุรกรรมสัญญาอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน
โดยนำผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ขององค์กรมาใช้เพื่อการพิจารณาอัตราดอกเบี้ย (ESG-Linked Interest Rate Swap) ซึ่งมีผลกระทบเชิงบวกต่อต้นทุนทางการเงินขององค์กร นับเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากความร่วมมือในการทำสัญญาอนุพันธ์อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย THOR ในปีที่ผ่านมาให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
รวมทั้ง ได้กำหนดหลักเกณฑ์พิจารณาจาก 3 องค์ประกอบ ดังนี้ 1. ผลดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) 2. ผลการกำกับดูแลกิจการที่ดี (CG Score) ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย และ 3. ความสามารถในการลดปริมาณการใช้พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียว ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดรับกับบริบทสากลที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อก้าวไปในอนาคตอย่างยั่งยืน
สำหรับในปีนี้ บริษัทได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) สำหรับประเทศที่กำลังพัฒนาต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 8 และได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัท “ดีเลิศ” (5 ดาว) ในรายงาน Corporate Governance Report ประจำปี 2564 ซึ่งจัดทำโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทยต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 9 อีกทั้ง บริษัทได้มีการลดการใช้พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการทดแทนด้วยวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ใช้พลาสติกน้อยลงเมื่อเป็นไปได้
ทางด้านนายไบรอัน เจมส์ เดลานี่ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT กล่าวว่า ถึงแม้การแพร่ระบาดจากสถานการณ์โควิด-19 จะส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อธุรกิจอาหารและโรงแรมซึ่งเป็นธุรกิจหลักขององค์กร แต่บริษัทไม่เคยย่อท้อเร่งปรับตัวและรักษามาตรฐานการดำเนินธุรกิจตามแนวทางแห่งความยั่งยืน โดยให้ความสำคัญในเรื่อง ESG เพราะเชื่อว่าจะสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในระยะยาวและยังช่วยเปลี่ยนแปลงโลกไปในทางที่ดีขึ้น เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่ธนาคารไทยพาณิชย์ มองเห็นความตั้งใจและความทุ่มเทของบริษัทมาตลอด จนนำมาสู่การต่อยอดความร่วมมือในการทำสัญญาอนุพันธ์อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย THOR สู่การเชื่อมโยงระหว่างผลการดำเนินงานด้าน ESG กับการพิจารณาอัตราดอกเบี้ย (ESG-Linked Interest Rate Swap) ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทดีขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทไมเนอร์ฯ จะมุ่งมั่นพัฒนาผลงานด้าน ESG ให้ผ่านหลักเกณฑ์การพิจารณาของธนาคารด้วยดี และขอสนับสนุนให้องค์กรธุรกิจเอกชนไทยตระหนักถึงความสำคัญในเรื่อง ESG มากขึ้น เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของทั้งองค์กรเอง และผู้มีส่วนได้เสียโดยรวม อีกทั้งยังเป็นเทรนด์ในระดับสากล ที่จะมีอิทธิพลต่อการทำธุรกิจในแง่มุมต่างๆ มากขึ้นแน่นอนในอนาคต ความร่วมมือระหว่างบริษัทไมเนอร์ฯ และธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นว่านอกจากจะสร้างประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมแล้ว ESG ยังสามารถสร้างผลประโยชน์ต่อต้นทุนทางการเงินขององค์กรได้อีกด้วย