“ฟินันเซีย” แนะซื้อ SISB เป้า 11.20 บ. รับกำไร 9 เดือนโต 98% ลุ้นทั้งปีแตะ 200 ลบ.

“ฟินันเซีย” แนะซื้อ SISB เป้า 11.20 บ. รับกำไร 9 เดือนโต 98% ลุ้นทั้งปีแตะ 200 ลบ. ปีหน้ากำไรทะลุ 262 ลบ.


บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(17 พ.ย.64)  ว่า บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน)  หรือ SISB  รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/2564 ที่ 46 ล้านบาท ลดลง 29.6% เทียบไตรมาสก่อนหน้าแต่ยังเพิ่มขึ้น 50% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน น้อยกว่าที่เราคาดไว้ราว 12% เนื่องจากมีการบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษตัดจำหน่าย Program computer จำนวนราว 4 ล้านบาท

หากไม่นับรายการดังกล่าว กำไรปกติจะอยู่ที่ราว 50 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่คาดไว้ โดยกำไรที่ลดลงเทียบไตรมาสก่อนหน้าเกิดจากรายได้ ค่าธรรมเนียมการศึกษาที่ลดลง 5% เทียบไตรมาสก่อนหน้าตามจำนวนนักเรียนที่ลดลงมาอยู่ที่ 2,098 คน จาก 2,409 คน ในไตรมาสก่อน เนื่องจากการหยุดเรียนและเลื่อนการเรียนราว 380 คน (ส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กที่ไม่เหมาะกับการเรียนออนไลน์ และผลกระทบจาก การให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมการศึกษาให้กับผู้ปกครองสำหรับภาคเรียนที่ 1 (ส.ค.-ธ.ค.2564)

อย่างไรก็ตามอัตราค่าธรรมเนียมการศึกษายังสามารถรักษาได้ในระดับที่น่าพอใจที่ 4.3 แสนบาทต่อคนต่อปี ดีกว่าไตรมาสก่อนที่อยู่ที่ 4.2 แสนบาทต่อคนต่อปี เนื่องจากสัดส่วนนักเรียนชั้นมัธยมและประถมที่สูงขึ้น (นักเรียนที่หยุดเรียนส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กซึ่งมีอัตราค่าธรรมเนียมน้อยกว่า) อัตรากำไรเบื้องต้นในไตรมาสนี้ลดลงมาอยู่ที่ 45% จาก 50.5% ในไตรมาสก่อน เนื่องจากค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็น ค่าใช้จ่ายดัง จึงไม่สามารถปรับลดลงตามรายได้ที่ลดลงได้

โดยในเบื้องต้นคาดว่า SISB จะมีกำไรสุทธิไตรมาส 4/2564 ต่ำที่สุดในปีที่ราว 20-22 ล้านบาท ลดลง 55% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และราว 70% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก 1) โรงเรียนมีการให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมการศึกษาที่มีผลตั้งแต่ ส.ค.-ธ.ค. 2564 ทำให้รายได้ในไตรมาส4/2564 จะได้รับผลกระทบเต็มไตรมาส

โดยคาดว่าอัตราค่าธรรมเนียมการศึกษาในไตรมาส  4/2564 จะลดลงมาอยู่ที่ราว 4 แสนบาทต่อคนต่อปี หรือ 7% เทียบไตรมาสก่อนหน้า,2.) แม้ว่าโรงเรียนจะเริ่มเปิด On-site แล้วแต่จำนวนนักเรียนยังไม่กลับสู่ปกติ (คาดว่าจะกลับมา 1 ใน 3 ของที่ Drop ไป โดยเฉพาะเด็กเล็ก) คาดจำนวนนักเรียน (ไม่รวมเชียงใหม่)จะฟื้นตัวมาที่ 2,200 คน จาก 2,098 คนในไตรมาส3/2564 คิดเป็น Utilization 61.8% ยังห่างจากระดับก่อน Covid ที่ราว 65%,3) ต้นทุนค่าจัดการการการศึกษาส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่ (ต้นทุนครูและ อาคาร) คาดว่าจะลดลง 3-5% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และอัตรากำไรขั้นต้นน่าจะอยู่ที่ราว 42% และ 4) คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายพิเศษพนักงานซึ่งส่วนใหญ่จะบันทึกในไตรมาสสุดท้าย

สำหรับกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปี 2564 อยู่ที่ 182 ล้านบาท โต 98% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน (ฐาน 9 เดือนปี 2563 ต่ำเพราะมีการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์) ขณะที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/2564 ได้รับผลกระทบจากการปรับลดค่าธรรมเนียม การศึกษา ทำให้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2564 ลง 20% เป็น 200 ล้านบาท (ลดลง 40.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) และปรับลดคาดการณ์กำไรปี 2565 ลง 11% เป็น 262 ล้านบาท (โต 28.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) คาดว่าจำนวนนักเรียนจะเริ่มกลับมาเรียนตามปกติ แต่ชั้นเด็กเล็กอาจฟื้นตัวช้า บนคาดการณ์จำนวนนักเรียน 2,600 คน จาก 2,220 คนในปี 2564  และอัตราค่าธรรมเนียมที่ 4.5 แสนบาทต่อคนต่อปี ส่วนสาขาที่นนทบุรีจะเริ่มส่งผลต่อประมาณการตั้งแต่ไตรมาส 3/2566 เป็นต้นไป ปรับลดราคาเหมาะสมปี 2564 ลงเป็น 11.20 บาท (เดิม 11.70 บาท) บนวิธี DCF อิง คงคำแนะนำ ซื้อ

Back to top button