สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 พ.ย. 2564
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 พ.ย. 2564
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นซิสโกซิสเต็มส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนีดาวโจนส์ อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัท Nvidia ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของโลก รวมทั้งผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทค้าปลีก เช่น บริษัทโคห์ลส์ คอร์ป
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,870.95 จุด ลดลง 60.10 จุด หรือ -0.17%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,704.54 จุด เพิ่มขึ้น 15.87 จุด หรือ +0.34% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,993.71 จุด เพิ่มขึ้น 72.14 จุด หรือ + 0.45%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพฤหัสบดี (18 พ.ย.) โดยปรับตัวลงเป็นวันแรกในรอบ 7 วัน หลังจากที่บวกขึ้นติดต่อกันนาน 6 วัน เนื่องจากตลาดถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่ร่วงลงตามราคาน้ำมันและโลหะ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 487.70 จุด ลดลง 2.25 จุด หรือ -0.46%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,141.98 จุด ลดลง 14.87 จุด หรือ -0.21%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,221.73 จุด ลดลง 29.40 จุด หรือ -0.18% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่7,255.96 จุด ลดลง 35.24 จุด หรือ -0.48%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันพฤหัสบดี (18 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงานซึ่งร่วงลงตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,255.96 จุด ลดลง 35.24 จุด หรือ -0.48%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อหลังจากสัญญาน้ำมันร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ในระหว่างวัน หลังมีข่าวว่าสหรัฐเรียกร้องให้จีนระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 79.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 81.24 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าข้อมูลล่าสุดที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐนั้น อาจผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.8 ดอลลาร์ หรือ0.47% ปิดที่ 1,861.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 26.7 เซนต์ หรือ 1.06% ปิดที่ 24.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 12.7 ดอลลาร์ หรือ 1.19% ปิดที่ 1,056.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 47.10 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 2,137.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรหลังจากดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือนขณะที่เงินปอนด์ยังคงยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. หลังเงินเฟ้อพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.30% แตะที่ 95.5414 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9255 ฟรังก์ จากระดับ 0.9283 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2607 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2614 ดอลลาร์แคนาดาแต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 114.22 เยน จากระดับ 114.14 เยน
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1372 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1314 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3499 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3484 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7274 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7260 ดอลลาร์สหรัฐ