“กสิกรไทย” ชี้ควบรวม “TRUE-DTAC” เกิดขึ้นสูง 80% จับตา “ผถห.-กลต.-กสทช.-คลัง” ไฟเขียว
“กสิกรไทย” ชี้ควบรวม TRUE-DTAC เกิดขึ้นสูง 80% ลุ้นผถห.”กลต.-กสทช.-คลัง” ไฟเขียวผ่านฉลุย ทั้งนี้จึงแนะซื้อ DTAC อัพเป้าใหม่ 43.97 บาท ฟาก TRUE ปรับเพิ่มเป็น 5.20 บาท เพื่อสะท้อนความเป็นไปได้ว่าดีลจะเกิดขึ้นจริง
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(22พ.ย.64) ภายหลังที่บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC แจ้งตลาดว่าอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการควบรวมบริษัทและทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของทั้งสองบริษัท
ซึ่งบนพื้นฐานการทำธุรกรรมตามที่รายงานมาจะทำให้ Telenor ถือหุ้นอยู่ 27.3% ในบริษัทใหม่ ขณะที่กลุ่ม CP จะถืออยู่ 29% โดยอ้างอิงจากสัดส่วนการถือหุ้น และราคาสวอป ระบุว่า EV/EBITDA ของ DTAC จะอยู่ที่ 6.43x และ TRUE อยู่ที่ 7.92x โดยมองว่าราคาหุ้นของทั้งสองจะปรับฐานในระยะสั้นจากการขายทำกำไร แต่จะพื้นตัวภายหลัง และปรับสู่ระดับราคาสวอป
ด้านการทำเทนเดอร์ ที่ราคา 47.76บาท สำหรับ DTAC และ 5.09บาท สำหรับ TRUE ทุนสำหรับใช้ในการเทนเดอร์จะไม่เกิน 8.92 หมื่นล้านบาท (4.2 พันล้าน สำหรับ DTAC และ 8.49 หมื่นล้านสำหรับ TRUE) โดย บล.กสิกร คาดราคาหุ้นของทั้งสองบริษัทจะยืนอยู่เหนือราคาเทนเดอร์เล็กน้อย
ทั้งนี้ บล.กสิกรปรับระดับความเป็นไปได้ที่จะเกิดดีลระหว่าง DTAC และ TRUE ขึ้นหลังจากประกาศเช้านี้ จากเดิมอยู่ที่ 20% เป็น 80% โดยยังมีความเป็นไปได้ที่ดีลนี้อาจไม่เกิดขึ้นเนื่องจากยังต้องได้รับการยินยอมเหล่านี้ 1) การยินยอมจากการประชุมผู้ถือหุ้น 2) การยินยอมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (เช่น กลต. กสทช. และ คลัง) 3) การเมืองแทรกแซง 4) จุดสำคัญบางเรื่องที่อาจเห็นไม่ตรงกัน
สำหรับการเปลี่ยนกระบวนทัศน์นั้น บล.กสิกรอ้างอิงจากข้อมูลของฝ่ายวิเคราะห์โดยมองว่า 1) การควบรวมจะช่วยปรับสมดุลเรื่องคลื่นความถี่ให้เท่าเทียมกัน รวมถึงการแข่งขันด้วยเช่นกัน 2) เห็นถึงการแข่งขันด้านราคาที่จะเกิดขึ้นทันที จากการที่สองผู้ประกอบการที่เหลืออยู่นั้นจะมีส่วนแบ่งตลาดที่พอๆกัน 3) คาดว่าทั้งสองผู้ประกอบการจะพัฒนาธุรกิจผ่านความร่วมมือจากการที่มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นคนไทย และยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
บล.กสิกรระบุว่า เมื่อใกล้ถึงช่วงเวลาที่หน่วยงานผู้มีอำนาจจะลงความเห็นยินยอมในดีลนี้ ราคาหุ้นของผู้ประกอบการมือถือทั้งหมดคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยมองว่า ADVANC มีอัพไซด์อยู่ 13% จากมูลค่ายุติธรรม (Fair value) จากธุรกิจที่มีอยู่ ส่วนกิจการใหม่ที่เกิดขึ้นจาก DTAC และ TRUE คาดว่าจะมีอัพไซด์อยู่ที่ 23% (หักลบค่าใช้จ่ายการลงทุนที่คาดว่าจะเกิดขึ้น)
อย่างไรก็ตามบล.กสิกรมีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่ม ICT โดยปรับมุมมองจาก Neutral เป็น Positive เพื่อสะท้อนถึงความเป็นไปได้ที่ดีลนี้จะเกิดขึ้น โดยปรับราคาเป้าหมาย ADVANC ขึ้น 8.5% จาก 207.24 บาท เป็น 224.94 บาท โดยคงมุมมองเป็น Outperform
ส่วนราคาเป้าหมาย DTAC ปรับเพิ่ม 20.5% จาก 36.47 บาท เป็น 43.97 บาท และปรับมุมมองขึ้นเป็น Outperform ส่วนราคาเป้าหมายของ TRUE ปรับเพิ่มขึ้น 23% จากเดิม 4.23 บาท เป็น 5.20 บาท แบะปรับมุมมองขึ้นเป็น Outperform
ด้านราคาหุ้น ADVANC ปิดตลาดวันนี้(22พ.ย.2564) อยู่ที่ระดับ 209.00 บาท บวก 13.00 บาท หรือ 6.63% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 7.24 พันล้านบาท
ส่วน TRUE ปิดตลาดวันนี้(22พ.ย.2564) อยู่ที่ระดับ 4.76 บาท บวก 0.44 บาท หรือ 10.19% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.13 หมื่นล้าน
ด้าน DTAC ปิดตลาดวันนี้(22พ.ย.2564) อยู่ที่ระดับ 45.00 บาท บวก 3.75 บาท หรือ 9.09% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 4.05 พันล้านบาท