ฉลุย! GULF-PTT ร่วมเซ็นสัญญา พัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 มูลค่า 3.1 หมื่นลบ.
GULF-PTT ร่วมเซ็นสัญญา พัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 มูลค่า 3.1 หมื่นลบ. ลุยเฟสแรกท่าเรือ F1 ก่อสร้างปี 66
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า ตามมติคณะกรรมการ บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด หรือ PTT Tank (ซึ่งถือหุ้นโดย ปตท. ร้อยละ 100) ในการประชุมครั้งที่ 3/256 เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2560 ได้อนุมัติการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF และ CHEC OVERSEA INFRASTRUCTURE HOLDING PTE, LTD (“CHEC OVERSEA”) ในนาม บริษัท จีพีซี อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินอล จำกัด หรือ GPC ด้วยทุนจดทะเบียน 4,000 ล้านบาท โดย PTT Tank ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 30 และ CHEC OVERSEA ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 30 และ GULF ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 40 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
โดยเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชน และร่าง สัญญาร่วมลงทุนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnership : PPT) รับโครงการพัฒนา ท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ
ล่าสุดวันนี้(25 พฤศจิกายน 2564) บริษัท GPC ได้เข้าทำสัญญาร่วมลงทุน PPP ระยะเวลา 35 ปี กับการท่าเรือแห่งประเทศไทย (ททท.) ในโครงการข้างต้น ที่มี มูลค่าการลงทุนร่วมกันในส่วนของการพัฒนาโครงสร้างหน้าทำจำนวน 30,871 ล้านบาท
สำหรับการร่วมทุนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบกิจการท่าเรือ การบริการจอดเทียบ บรรทุก ขนถ่าย สินค้าแก่เรือเดินทะเล รวมถึงคลังสินค้า สำหรับการขนส่งคอนเทนเนอร์ได้อย่างน้อย 4,000,000 ทีอียูต่อปี (ทีอียู คือ เทียบเท่าตู้คอนเทนเนอร์ ขนาด 20 ฟุต) ซึ่งการลงทุนดังกล่าว สามารถรองรับการขนถ่ายสินค้า ผ่านท่าเรือแหลมฉบังซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และเป็นการทำธุรกิจด้านโลจิสติกส์ โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์และวิสัยทัศน์ของ ปตท. ในการขยายธุรกิจด้าน Logistics & Infrastructure และ เป็นการสนับสนุนการเติบโตของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
ทั้งนี้คาดว่าท่าเรือ F1 จะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2566 และจะดำเนินการเชิงพาณิชย์ ในปี 2568 สำหรับท่า F3 จะเริ่มก่อสร้าง ได้ในปี 2570 และดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2572