“หุ้นยุโรป” ร่วงหนักรอบ 17 เดือน “WTI” ดิ่งกว่า 13% ผวา “โควิด” กระทบเศรษฐกิจโลก

“ตลาดหุ้นยุโรป” ร่วงหนักรอบ 17 เดือน ฟากน้ำมันดิบ WTI ดิ่งกว่า 13% ผวา “โควิดกลายพันธุ์” กระทบเศรษฐกิจโลก กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง


ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงในวันศุกร์ (26 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนแห่เทขายหุ้น หลังจากรายงานการพบเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่อาจดื้อวัคซีนนั้น ทำให้เกิดความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมา

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 464.05 จุด ร่วงลง 17.67 จุด หรือ -3.67%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,739.73 จุด ร่วงลง 336.14 จุด หรือ -4.75%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,257.04 จุด ร่วงลง 660.94 จุด หรือ -4.15% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,044.03 จุด ร่วงลง 266.34 จุด หรือ -3.64%

ดัชนี STOXX 600 ร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563 และร่วงลง 4.5% ในรอบสัปดาห์นี้ ขณะที่ดัชนีความผันผวน พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 10 เดือน

โดยนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้, บอตสวานาและฮ่องกง โดยไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าวที่มีชื่อว่า B.1.1.529 นั้น เป็นไวรัสที่อาจสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ และอาจแพร่ระบาดได้มากขึ้น

หุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการ ร่วงลง 8.8% รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563

ด้านอังกฤษประกาศว่า จะเริ่มแบนเที่ยวบินชั่วคราวจาก 6 ประเทศในแอฟริกาตั้งแต่ช่วงเที่ยงวันศุกร์ (26 พ.ย.) เป็นต้นไป ขณะที่สหภาพยุโรปวางแผนที่จะดำเนินการดังกล่าวเช่นกัน

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนที่ร่วงลงกดดันหุ้นกลุ่มธนาคารของยุโรปดิ่งลง 6.9%

หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ ร่วง 5.8% ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ร่วง 5.0% เนื่องจากราคาโลหะและน้ำมันลดลง หลังรายงานการพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี, กลุ่มเฮลธ์แคร์ และกลุ่มสาธารณูปโภค ปรับตัวลงเล็กน้อย โดยหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการที่ประชาชนต้องอยู่บ้าน (stay-at-home) ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด

ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดิ่งลงมากกว่า 13% ในวันศุกร์ (26 พ.ย.) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 สัปดาห์ โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ดิ่งลง 10.24 ดอลลาร์ หรือ 13.1% ปิดที่ 68.15 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลงมากกว่า 10.4% ในรอบสัปดาห์นี้

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 9.53 ดอลลาร์ หรือ 11.59% ปิดที่ 72.72 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลงมากกว่า 8% ในรอบสัปดาห์นี้

ทั้งสัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลงวันเดียวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2563 และปิดตลาดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา

สหราชอาณาจักรประกาศว่า จะเริ่มแบนเที่ยวบินจาก 6 ประเทศในแอฟริกาตั้งแต่ช่วงเที่ยงวันศุกร์ (26 พ.ย.) เป็นต้นไป

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐประกาศในวันศุกร์ว่า สหรัฐจะกำหนดข้อจำกัดด้านการเดินทางกับ 8 ประเทศในแอฟริกา อันเนื่องมาจากการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อว่า B.1.1.529 ซึ่งเป็นไวรัสที่อาจสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ โดยนักลงทุนกังวลว่าหากไวรัสสายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาดเป็นวงกว้างก็อาจทำให้หลายประเทศประกาศล็อกดาวน์รอบใหม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

นอกจากนี้ แคนาดาประกาศในวันศุกร์ห้ามชาวต่างชาติที่เดินทางไปยังแอฟริกาใต้ในรอบ 14 วันล่าสุด ไม่ให้เข้าประเทศ

ทั้งนี้ ตลาดน้ำมันปรับตัวผันผวนอย่างหนักในวันศุกร์ เนื่องจากการซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบางในช่วงวันหยุดเทศกาลขอบคุณพระเจ้าในสหรัฐ โดยตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการครึ่งวัน

Back to top button